จีนปราบโกงยากขึ้น
เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานปราบปรามทุจริตของจีนกล่าวว่า จีนต้องเผชิญกับงานยากในการแกะรอยผู้ร้ายข้ามแดนและติดตามยึดทรัพย์สินจากต่างประเทศที่ได้มาโดยทุจริต จากการณรงค์ที่แข็งขันของรัฐบาลในการตามจับเจ้าหน้าที่รัฐที่โกงกินและหอบทรัพย์สินหนีไปต่างประเทศ
นายหวง ชูเชียน รองผู้อำนวยการคณะกรรมการกลางปราบปรามทุจริตเพื่อการสอบสวนทางวินัย ได้กล่าวในรายงานเมื่อวันที่22 เม.ย.ว่า “ภารกิจในการปราบปรามการทุจริต โดยการแกะรอยและนำตัวผู้ประพฤติผิดพร้อมยึดทรัพย์สินกลับเข้ามาในจีนเป็นเรื่องที่ยากมาก” แต่เขาไม่ได้อธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนได้พยายามที่จะขอความร่วมมือจากนานาชาติเพิ่มขึ้นเพื่อตามล่าข้าราชการที่ต้องสงสัยว่าโกงงบประมาณของภาครัฐโดยหลบหนีไปกบดานที่ต่างประเทศ โดยมาตรการปราบโกงที่เข้มข้นนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนประกาศสงครามกับการทุจริตที่ฝังรากลึกในจีนมานานหลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 3 ปี ก่อน
แต่หลายประเทศตะวันตกรู้สึกไม่เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือจีนในเรื่องนี้ เพราะไม่ต้องการที่จะส่งผู้กระทำผิดกลับไปยังประเทศจีน ที่การปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยยังคงมีปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิอยู่ และตำหนิรัฐบาลจีนว่า ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะจัดหาหลักฐานมายืนยันว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาจริงหรือไม่
โดยนายหวงได้กล่าวในการประชุมเพื่อความร่วมมือในแคมเปญ “สกายเน็ต 2559” ซึ่งเป็น มาตรการต่อเนื่องของรัฐบาลที่ออกมาในปีที่แล้วเพื่อติดตามจับกุมผู้ประพฤติทุจริตและยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย
มีรายงานว่า หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่ในการทำงานแตกต่างกันหลายหน่วยงาน ต้องเข้ามาร่วมมือกันในการทำงานในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะกิจ
คณะกรรมการกลางอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนว่า ธนาคารกลางของจีนจะทำงานร่วมกับกระทรวงความมั่นคงเพื่อติดตามเส้นทางการฟอกเงินในบริษัทต่างประเทศและธนาคารใต้ดินของข้าราชการที่โกงกินเหล่านี้
มีการอธิบายเสริมว่า การควบคุมเส้นทางการหลบหนีและการฟอกเงินในต่างประเทศทำได้ยากขึ้น เพราะเอกสารของผู้กระทำผิดเหล่านี้ล้วนเป็นเอกสารที่ผิดกฎหมาย
โดยนายหวงกล่าวสรุปว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นที่จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมทรัพย์สินที่เป็นหลักฐานในการทุจริตกลับเข้ามาเพื่อรับโทษ และไม่มีที่ให้หลบหนีได้อีกต่อไป.