รำลึก 5 ปีสึนามิที่ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นจัดพิธีรำลึกครบรอบ 5 ปีของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ ที่ทำให้ผู้คนกว่า 18,000 คนต้องเสียชีวิตและสูญหาย
สมเด็จพระจักรพรรดิ์อากิฮิโตะและนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ได้เข้าร่วมพิธีรำลึกที่จัดขึ้นในกรุงโตเกียวและมีการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยไปทั่วประเทศ ในเวลาที่ตรงกับการเกิดเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนั้น เหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงถึง 9.0 ริกเตอร์ ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์มหึมาที่โถมทำลายชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดความเสียหายกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟุกุชิมะ ที่นับว่าร้ายแรงที่สุดในโลกนับตั้งแต่เกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย เป็นต้นมา
โดยเกิดรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้าที่แพร่กระจายเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่มากกว่า 160,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถกลับไปพำนักที่เมืองฟุกุชิมะได้อีก
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 เป็น หนึ่งในความสั่นสะเทือนที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกได้ สึนามิที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย กำแพงคลื่นยักษ์ได้ถาโถมเข้าโจมตีชายฝั่งโทโฮกุและถล่มเมืองและหมู่บ้านหลายแห่งจนราบ
เวลา 14.46 น.ในญี่ปุ่นเป็นเวลาที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนั้น ประชาชนในกรุงโตเกียวต่างก้มศีรษะโค้งแสดงความเคารพให้กับผู้เสียชีวิตและรถไฟฟ้าใต้ดินก็หยุดวิ่งชั่วครู่
พระจักรพรรดิ์อากิฮิโตะ ทรงกล่าวในพิธีรำลึกว่า “ผู้คนมากมายที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้เป็นผู้สูงอายุ และข้าพเจ้ากังวลว่าบางคนอาจต้องทนทุกข์เพียงลำพังในที่ที่เราเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ไม่ทั่วถึง”
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นทั้งหมดถูกสั่งปิด เพื่อความปลอดภัย หลังจากเหตุสะเทือนขวัญในฟุกุชิมะ ทำให้ญี่ปุ่นต้องนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลในราคาแพงเพื่อทดแทน มีโรงไฟฟ้าเพียงบางแห่งเท่านั้นที่เริ่มเปิดทำการ แม้จะมีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ ที่เกรงว่าเหตุการณ์ร้ายแรงอาจเกิดขึ้นได้อีก
ประชาชนราว 470,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่โดยรอบของเมืองฟุกุชิมะ เนื่องจากมีรังสีแผ่ขยายไปทั่วเป็นบริเวณกว้างที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการบูรณะและฟื้นฟูความเสียหาย แต่หลายอย่างก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์และบางอย่างก็ไม่สามารถทำให้เหมือนเดิมได้
นายทาคางิ สึโยชิ รัฐมนตรี ที่กำกับดูแลการฟื้นฟูการก่อสร้างทั้งหมดได้สัญญาว่า การบูรณะจะต้องเสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลตั้งเป้าว่า จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมี.ค.นี้ มีข้อมูลว่า ผู้รอดชีวิตหลายคนจากโศกนาฏกรรมนี้ยังคงมีสภาพจิตใจและอารมณ์ที่มีปัญหา
นายเอกิ คุมาไก อาสาสมัครดับเพลิง กล่าวว่า “โครงสร้างพื้นฐานได้รับการฟื้นฟูก็จริง แต่หัวใจของคนไม่ง่ายอย่างนั้น เวลาคงช่วยให้ค่อยๆดีขึ้น”
เขาอาศัยอยู่ในเมืองริคุเซนทาคาตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด เขาสูญเสียเพื่อนร่วมงานไปถึง 51 คนในเหตุการณ์สึนามิครั้งนั้น เขาให้สัมภาษณ์สื่อว่า
“ผมเฝ้าดูใบหน้าพวกเขา มันเศร้ามาก ผมพูดอะไรไม่ออกเลย”