แอร์ไลน์ตะวันออกกลางรายได้พุ่ง
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) รายงานว่า สายการบินจากภูมิภาคตะวันออกกลางมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 10.9% ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จากอุปสงค์ผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
ทางIATA รายงานว่า ความหนาแน่นจากการจราจรทางอากาศของผู้โดยสารทั่ว โลก ส่งผลให้รายได้เดือน ม.ค.พุ่งขึ้นถึง 7.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 โดยคำนวณจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. สายการบินเอมิเรตส์ ที่มีสำนักงานในดูไบได้ครองตำแหน่งเที่ยวบินพาณิชย์ที่บินนานที่สุดในโลก ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A380 ‘ซูเปอร์จัมโบ้’ ที่บินขึ้นจากท่าอากาศยานดูไบและลงจอดที่เมืองโอ๊คแลนด์หลังจากทำการบินนานกว่า 17 ชั่วโมง ทั้งนี้ รายได้ของสายการบินที่ตามหลังกลุ่มประเทศร่ำรวยจากน้ำมัน คือสายการบินจากทวีปแอฟริกาที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 12.1% และสายการบินภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งประกาศรายได้ว่าเพิ่มขึ้น 10.3%
นายโทนี่ ไทเลอร์ ประธานบริหารงานทั่วไปและซีอีโอของ IATA ให้ความเห็นว่า เงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้ยอดผู้โดยสารยังคงทะยานอย่างต่อเนื่องในปีนี้ คือ ราคาน้ำมันขาลงล่าสุด ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการขยายตัวของสายการบิน ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 มี.ค. โดยขึ้นไปแตะ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,400 บาทต่อบาร์เรล
ทางIATA รายงานว่า อัตราส่วนการบรรทุกทั่วโลกเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนม.ค.ซึ่ง เป็นผลมาจากอัตราส่วนการบรรทุกที่เพิ่มขึ้น 1.1% มาอยู่ที่ 78.8% ซึ่งจัดว่าเป็นอัตราส่วนบรรทุกที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนแรกของปี
ทั้งนี้ แนวโน้มการขยายตัวของผู้โดยสารยังคงแข็งแกร่งเหมือนในปี 2558 แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของอุปสงค์ในการเดินทางเพื่อเชื่อมโยงติดต่อกัน ถึงแม้จะมีอุปสรรคในตลาดปัจจุบันอยู่บ้าง
นอกจากนี้ เขายังกล่าวเสริมว่า“สถิติผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในตัวสินค้าและทำให้หลายสายการบินสามารถทำกำไรสูงสุดจากสินทรัพย์ที่มี ปัจจัยสำคัญที่จะเกื้อหนุนให้ปีนี้เป็นปีที่มีผู้โดยสารหนาแน่นตลอดทั้งปีคือราคาน้ำมันขาลงล่าสุดที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของการท่องเที่ยวทางอากาศได้เป็นอย่างดี”