ญี่ปุ่นดันผลผลิตภาคบริการ
รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะเพิ่มการขยายตัวของผลผลิตภาคบริการเป็น 2% ภายในปี 2563 เพื่อหนุนตัวเลขจีดีพี หลังจากภาคบริการถูกมองเป็นผู้ร้ายตลอดช่วงเวลาที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวมานาน
จากจำนวนประชากรที่ลดลงทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคตของญี่ปุ่นมีขีดจำกัด รัฐบาลจึงมองว่า ควรตั้งเป้าในการปรับปรุงผลผลิต ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญในภาคบริการที่คิดเป็น 75% ของตัวเลขจีดีพี ผลผลิตของภาคส่วนบริการนี้คิดเป็นครึ่งหนึ่งของผลผลิตแรงงานในสหรัฐอเมริกาที่พุ่งขึ้นเป็น 3 เท่านับตั้งแต่ 40 ปีที่ แล้วในอุตสาหกรรมการผลิต
ปัจจุบัน ตัวเลขการขยายตัวของผลผลิตภาคแรงงานคือ 1% ดังนั้น เพื่อจะให้ขยายตัวเป็น 2% รัฐบาลจึงกำหนดนโยบายที่จะช่วยเหลือบริษัท 10,000 แห่งในการเพิ่มผลผลิตให้ได้อย่างน้อย 10% ภายในปี 2563 โดยจะให้เงินอุดหนุนจำนวน 5 ล้านเยน โดยเฉพาะกับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อกระตุ้นการเพิ่มผลผลิตในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างในกรณีของร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท ที่เร่งวางระบบให้ลูกค้าสามารถชำระเงินค่าสินค้าได้เองให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว ในขณะที่ร้านอาหาร โคโลไวด์และผู้ประกอบการร้านอาหารอื่นๆได้ทยอยติดตั้งจุดสั่งอาหารด้วยจอทัชสกรีนให้กับลูกค้าในร้าน
ทั้งนี้ บรรษัทค้ำประกันสินเชื่อของญี่ปุ่นจะเพิ่มวงเงินค้ำประกันสินเชื่อให้ภาคบริการจาก 280 ล้านเยนเป็น 560 ล้านเยน ทั้งนี้รัฐบาลจะพัฒนาระบบที่เอื้อให้บริษัทขนาดเล็กในภาคบริการเพิ่มศักยภาพในการเติบโตและปรับปรุงผลผลิตได้ และเห็นถึงผลกระทบของบริษัทที่มีต่อตัวเลขการขยายตัวของอุตสาหกรรม สถาบันการเงินในประเทศจะใช้กรอบความคิดนี้ในการเข้าถึงลูกค้าเพื่อปฏิรูปการขยายตัวของธุรกิจในญี่ปุ่น
เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะทำงานร่วมกันในการอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมการบริการรูปแบบใหม่โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะในด้านการดูแลรักษาสุขภาพ
อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการเหล่านี้จะตอบโจทย์ได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่มีความกังวลว่า บริษัทที่ควรจะออกจากตลาดจะยังคงอยู่ต่อไป ทำให้มีจำนวนผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดน้อยลง
นอกจากนี้ ยังคงมีความต้องการนโยบายที่ครอบคลุมมากกว่านี้เพื่อส่งเสริมธุรกิจเสรี เช่น การผ่อนคลายกฎระเบียบและลดการจัดเก็บภาษีลงเศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกที่ซบเซา และนักวิเคราะห์เชื่อว่า สภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงชะลอตัวต่อไปในปีนี้.