นายกฯ นิวซีแลนด์ประกาศล็อกดาวน์ใน 48 ชม.
เวลลิงตัน ( รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ประกาศว่า ประเทศจะเข้าสู่การเตือนภัยในระดับสูงสุดคือภาวะล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้บริการที่ไม่สำคัญ โรงเรียนและธุรกิจต้องปิดภายใน 48 ชม.
โดยนายกฯ อาร์เดิร์นระบุว่า มาตรการนี้จะทำให้สถานบันเทิงทั้งบาร์ ร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ปิดให้บริการทั้งหมด เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยาเท่านั้น โดยเธอเสริมว่าประเทศนิวซีแลนด์ไม่ขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค
เธอย้ำว่า โรงเรียนจะปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.เป็นต้นไป
“ นิวซีแลนด์กำลังเตรียมพร้อมที่จะกักบริเวณตัวเอง” เธอระบุในการแถลงข่าว
ผู้นำนิวซีแลนด์ชี้ว่า มาตรการล็อกดาวน์ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ตั้งเป้าที่จะหยุดการแพร่เชื้อในประเทศ หากไม่มีมาตรการนี้ อาจทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงต่อชีวิตมากขึ้น
“การตัดสินใจนี้จะเป็นมาตรการที่เข้มงวดที่สุดในการควบคุมการเคลื่อนที่ของชาวนิวซีแลนด์ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่” นายกฯ อาร์เดิร์นระบุ “ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเราที่จะชะลอไวรัสและช่วยชีวิตให้มากที่สุด”
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นิวซีแลนด์รายงานจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 36 ราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมในประเทศมากเกิน 100 ราย กดดันให้รัฐบาลต้องคุมเข้มเพื่อควบคุมการระบาด
ดัชนีตลาดหุ้นในประเทศดิ่งลง 10% ในวันเดียวกัน ทำให้ดัชนีปรับลดลงกว่า 30% แล้วหลังวันที่ 21 ก.พ.เป็นต้นมา
แกรนท์ โรเบิร์ตสัน รมว.คลังที่ปรากฎตัวพร้อมนายกฯ เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยเขาระบุว่า รัฐบาลจะขยายกรอบเงินอุดหนุนค่าจ้างให้กับธุรกิจทั้งหมด โดยเพิ่มเป็น 9,300 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากเดิม 5,100 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแรงงานทุกคนจะได้รับค่าจ้างบางส่วนในช่วงเวลาของการล็อกดาวน์
ก่อนหน้านี้ พรรคฝ่ายค้านของนิวซีแลนด์เรียกร้องให้รัฐบาลนิวซีแลนด์ยกระดับการเตือนภัยของประเทศให้เป็นระดับสูงสุดคือระดับ 4.