เยอรมนีปิดพรมแดน กังวลไวรัส
เยอรมนีเป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศปิดพรมแดนจากความพยายามที่จะควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มอย่างก้าวกระโดดในยุโรปชั่วข้ามคืน
โดยเช้าวันที่ 16 มี.ค. เยอรมนีปิดพรมแดนที่ติดกับออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก และเดนมาร์ก เฉพาะพลเมืองเยอรมนัน ซึ่งอาศัยในประเทศและทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน หรือในทางกลับกัน และสินค้าทางการแพทย์ที่สามารถข้ามพรมแดนเยอรมนีได้ แม้กรุงเบอร์ลินจะไม่ใช่เมืองหลวงแรกของประเทศในยุโรปที่คุมเข้มการเดินทาง แต่นับเป็นการเปลี่ยนจุดยืนของนโยบายของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล
“นี่เป็นสถานการณ์ที่วิกฤต” Friedrich Heinemann ผอ.ฝ่ายการเงินสาธารณะของสำนักคิด ZEW ในเยอรมนีกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ
โดยเขาระบุว่า นี่เป็น “การแข่งขัน” ระหว่างนักการเมือง “เพื่อแสดงความเป็นผู้นำ” “ไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะแสดงว่า มีความตั้งใจรับมือกับการระบาดน้อยเกินไป” เขากล่าว
เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อยืนยัน 5,813 รายและมีผู้เสียชีวิต 13 ราย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินสในเช้าวันที่ 16 มี.ค. ขณะที่อิตาลี สเปน และฝรั่งเศสมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด – 19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุด อิตาลีมีผู้เสียชีวิต 1,809 ราย สเปน 292 ราย และฝรั่งเศส 127 ราย
โดยก่อนหน้าเยอรมนี มี 7 ประเทศในยุโรปที่มีมาตรการปิดพรมแดนคือ ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฮังการี ลิธัวเนีย โปแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์
อิตาลีและสเปนปิดประเทศไปแล้ว ขณะที่โปรตุเกสกำลังเร่งจำกัดการหลั่งไหลเข้าของนักท่องเที่ยวจากพรมแดนที่ติดกับสเปน
“ เราจำเป็นต้องรักษาสภาพคล่องของสินค้าที่ไหลเวียนทั่วยุโรปไม่ให้มีอุปสรรคขัดขวาง ” Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารสูงสุดของสหภาพยุโรประบุเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา
“ ในช่วงเวลาวิกฤต เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องคงสภาพตลาดภายในอียูให้ขับเคลื่อนต่อไป” เธอกล่าวในวีดีโอข้อความ
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปต้องการให้ประเทศสมาชิกมีการตรวจคัดกรองไวรัสที่ด่านพรมแดนมากกว่าที่จะปิดกั้น ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวและบุคคลอื่นๆเข้าประเทศ
นายกฯแมร์เคิลมีกำหนดประชุมกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสเกี่ยวกับการปิดพรมแดนในวันที่ 16 มี.ค.
Heinemann เตือนว่า การท่องเที่ยวจะ “ถูกกระทบอย่างรุนแรง” ในยุโรป แต่การเคลื่อนที่ของแรงงานยังเป็น “คำถามสำคัญ” ที่สุดในด้านเศรษฐกิจ
โดยเขาเสริมว่า ไวรัสโคโรนามีแนวโน้มจะทำให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปถดถอยในปี 2563 นี้.