นักการเมืองญี่ปุ่นขอโทษโก่งราคาหน้ากาก
โตเกียว : เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นักการเมืองชาวญี่ปุ่นออกมาขอโทษหลังจากเขาเปิดขายหน้ากากอนามัยออนไลน์มูลค่า 86,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( 2.72 ล้านบาท ) ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยจากโรคระบาดโควิด – 19
ฮิโรยูกิ โมโรตะ สมาชิกสมัชชาจังหวัดชิซูโอกะ และเจ้าของบริษัทนำเข้า กล่าวชี้แจงการตัดสินใจของเขาในการแถลงข่าวทางโทรทัศน์ แต่ยอมรับว่าการกระทำของเขาไม่เหมาะสมและไม่ถูกเวลาอย่างยิ่ง
โมโรตะระบุว่า เขาได้ขายหน้ากากอนามัยทางเว็บไซต์ออนไลน์จำนวน 2,000 ชิ้น ผ่านการประมูลขายหลายสิบครั้งในช่วงเวลาหนึ่งเดือน มูลค่า 8.88 ล้านเยน โดยเขากล่าวกับสื่อว่า มูลค่าการขายแต่ละครั้งอยู่ระหว่าง 34,000 – 170,000 เยน
โมโรตะระบุว่า เขาซื้อหน้ากากอนามัยจากจีนเมื่อ 10 ปีก่อนในราคา 15 เยนต่อชิ้น หรือคิดเป็นราคา 30,000 เยนต่อกล่องขนาดบรรจุหน้ากาก 2,000 ชิ้น จากรายงานของสื่อท้องถิ่น
“ นี่เป็นสินค้าในสต็อกของบริษัทผมมานานหลายปี ไม่ใช่สิ่งที่ผมทำแค่เพื่อแสวงหากำไรที่ไม่เป็นธรรม” โมโรตะกล่าว “ แต่ในฐานะสมาชิกสมัชชาจังหวัด ผมรู้สึกว่าต้องมีความรับผิดชอบทางจริยธรรม”
เขาออกโรงขอโทษหลังจากถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงจากการขายหน้ากากและคำกล่าวอ้างของเขาที่ว่าราคาในการซื้อขายนั้นเป็นราคาตามท้องตลาด
บรรดาผู้ใช้งานในโลกออนไลน์มีการบ่นกันมานานว่า ไม่มีซัพพลายหน้ากากอนามัยเพียงพอในตลาด และมีการสันนิษฐานว่า มีหลายคนที่กว้านซื้อหน้ากากที่มีอยู่ในสต็อกเพื่อนำมาโก่งราคาขายใหม่
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะขอให้บริการประมูลทางอินเทอร์เน็ตหยุดการขายสินค้าอย่างหน้ากากอนามัย และยาฆ่าเชื้อเพื่อสกัดไม่ให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น
โมโรตะระบุว่า เขาจะออกจากตำแหน่งประธานบริษัท โดยยกตำแหน่งบริหารสูงสุดของบริษัทให้กับภรรยาของเขา แต่ยังคงทำงานเพื่อสาธารณชนต่อไป
ทั้งนี้ โมโรตะระบุว่า เขาอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับรัฐบาลท้องถิ่นเกี่ยวกับการบริจาคเงินที่ได้จากการขายหน้ากากของเขาให้กับภาครัฐ