ธอส.คุม“เข้า-ออก”อาคาร เทหมื่นล.อุ้มเหยื่อไวรัส
ธอส. เทเงินหมื่นล้านบาท ออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ COVID-19 สั่งลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน เหลือ 1.00% ต่อปี ย้ำยื่นเข้าร่วมมาตรการถึง 30 มิ.ย.นี้ พร้อมเร่งคู่ขนาน คุมเข้มสถานที่-พนักงานเข้าออกทุกสาขา
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ว่า ธนาคารฯเตรียมกรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงเหลือ 1.00% ต่อปี เพื่อลดภาระหนี้ที่ผ่อนชำระในทุกวัตถุประสงค์การกู้
ผู้ขอรับมาตรการช่วยเหลือต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่รายได้ต่อเดือนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้แก่ ไกด์นำเที่ยว พนักงานโรงแรม ผู้ประกอบการรายย่อยที่ขายสินค้าในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยว ในประเทศกลุ่มเสี่ยง หรืออาชีพอื่นที่แสดงหลักฐานให้ธนาคารตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจริง อาทิ หนังสือรับรองจากหน่วยงานว่าถูกลดวันทำงาน ลดเงินเดือนหรือค่าจ้าง หรือถูกเลิกจ้าง หรือทะเบียนการค้า หรือสัญญาเช่าร้าน เป็นต้น และธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบยื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาของธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และธนาคารสงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว เนื่องจากวงเงินมีจำกัด กำหนดเงื่อนไขการใช้วงเงินลูกค้าที่ยื่นคำขอก่อนได้สิทธิก่อน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ส่วนมาตรการทางด้านสถานที่ ธอส. ยังได้จัดทำจุดคัดกรองโดยนำเครื่องวัดอุณหภูมิทางร่างกายแบบดิจิตอล มาใช้ในการตรวจลูกค้าและพนักงาน พร้อมทั้งจัดแอลกอฮอล์เจลล้างมือ บริเวณทางเข้าอาคารทั้งที่สำนักงานใหญ่ และสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะสาขาที่ตั้งอยูใน 8 จังหวัดเฝ้าระวัง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ และชลบุรี
ทั้งนี้ หากพบว่าลูกค้ามีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะแจกหน้ากากอนามัย และแยกการให้บริการออกมาในพื้นที่เฉพาะเพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่พนักงานที่เดินทางไปประเทศในกลุ่มเสี่ยง เมื่อกลับมาธนาคารให้พนักงานทำงานแบบ Work from home เป็นเวลา 7 วัน โดยถ้าไม่มีอาการป่วยหลังจากนั้นจะต้องติดตามอาการและรายงานผู้บังคับบัญชาจนกว่าจะครบ 14 วัน
นอกจากนี้ ธนาคารฯได้ออกประกาศคำสั่งภายในธนาคารฯ เรื่องแนวทางปฏิบัติตนของพนักงานกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) อาทิ งดจัดงานสัมมนา ดูงาน หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และกำหนดแนวทางปฏิบัติตนในกรณีต่างๆ ที่อาจมีความเสี่ยงจากการเดินทาง โดยในวันจันทร์ที่ 2 มี.ค.2563 ธนาคารฯได้จัดให้มีทีมแพทย์และพยาบาล เข้าดำเนินการตรวจคัดกรองผู้บริหาร พนักงาน ตลอดจนบริษัทผู้เช่าอาคาร และ Outsource ทั้งหมดที่ปฏิบัติงานในสำนักงานใหญ่อีกด้วย.