ส่งออกทรุดทุบเศรษฐกิจไต้หวัน
เศรษฐกิจไต้หวันในไตรมาส 3 ร่วงลงมา 1.01% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) พลาดเป้าของการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4 จากความต้องการในตลาดที่ปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้เศรษฐกิจไต้หวันหดตัวเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกจากการส่งออกที่ซบเซา และการบริโภคทั่วโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยจีดีพีไตรมาส 3 สิ้นสุดเดือนก.ย.2558 ลดลงมา 1.01% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน
การส่งออกของไต้หวันมีแนวโน้มลดลง จากความเติบโตทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้าชั้นนำอย่างจีนที่ลดต่ำลงมากที่สุดในรอบ 6 ปีในไตรมาสที่ผ่านมา การบริโภคในประเทศที่ทรงตัว หุ้นในประเทศที่ดิ่งลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 และอัตราการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า ความเติบโตทางเศรษฐกิจจะพลิกกลับคืนมาในแดนบวกในไตรมาสนี้จากความต้องการในตลาดของสหรัฐอเมริกาและจีนที่ฟื้นตัวขึ้น
“สภาวะทรุดตัวของเศรษฐกิจภายนอกประเทศเริ่มส่งผลกระทบต่อความต้องการภายในประเทศ ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง และอัตราการจ้างงานก็ลดลงด้วย” นายแคลร์ หวง นักเศรษฐศาสตร์จาก บ.โซซิเอต เจเนรัล เอจีประจำฮ่องกง กล่าว
“การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา จะช่วยกระตุ้นความต้องการในไตรมาส 4 ไม่น่าที่จะหดตัวถึง 2 ไตรมาสติดต่อกัน”
การที่ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน ปี 2552 ส่งผลให้อัตราที่แท้จริงเพิ่มสูงขึ้น และผลต่างระหว่างจีดีพีกับกำลังการผลิตเป็นลบ
“จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทผู้ส่งออกของไต้หวันไปที่จีน และประเทศตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบ” นายซูโคอัน นักเศรษฐศาสตร์จาก บ.แคปปิตัล เซคิวริตี้ส์ในกรุงไทเปกล่าว
“มีการคาดการณ์กันว่าสหรัฐฯ น่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น แต่ก็ไม่ปรับแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังย่ำแย่อยู่”