FB พร้อมจ่ายภาษีมากขึ้น รับปฏิรูปภาษีทั่วโลก
มิวนิก (รอยเตอร์) – มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊กยอมรับว่า การปฏิรูปภาษีทั่วโลกทำให้เฟซบุ๊กต้องจ่ายภาษีมากขึ้นในหลายประเทศ จากถ้อยแถลงของเขาในเยอรมนีเมื่อวันที่ 15 ก.พ.
มีการปรับแก้ไขกฎหมายภาษีข้ามแดน หลังจากเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา 137 ประเทศพยายามหลีกเลี่ยงสงครามการค้าใหม่เรื่องการจัดเก็บภาษีกับบริการดิจิทัลให้มากขึ้น โดยบางประเทศเตรียมดำเนินการด้านกฎหมายเองอย่างเป็นอิสระ
“ ผมเข้าใจว่า มีความหงุดหงิดไม่พอใจเรื่องที่ว่าบริษัทเทคโนโลยีถูกเก็บภาษีในยุโรป เราอยากให้มีการปฏิรูปภาษี และผมดีใจที่ OECD เข้ามาดูแลเรื่องนี้” ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวใน Munich Security Conference
เขาเสริมว่า “ เราอยากให้กระบวนการของ OECD ประสบความสำเร็จ เพื่อให้เรามีระบบทีมีเสถียรภาพและเชื่อถือได้ที่จะเดินหน้าต่อไป และเรายอมรับว่า อาจทำให้เราจ่ายภาษีมากขึ้น และจ่ายในหลายสถานแตกต่างกันภายใต้กรอบใหม่”
ที่ผ่านมา อเมซอน เฟซบุ๊ก และกูเกิล ทำกำไรได้มากเนื่องจากจ่ายภาษีต่ำในหลายประเทศ เช่น ไอร์แลนด์ ไม่ว่าลูกค้าของพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ระบุว่า ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลหลายประเทศเจรจาเรื่องการปรับแก้ไขกฎระเบียบใหม่ในการจ่ายภาษี และสัดส่วนกำไรเท่าไรที่ควรถูกเก็บภาษี
หลายประเทศกำลังเตรียมการในการร่างภาษีดิจิทัลแห่งชาติ แม้รัฐบาลสหรัฐฯขู่จะขึ้นภาษีการค้าโต้ตอบเพราะมีหลายประเทศที่จ่อเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ให้มากขึ้น
ถ้อยแถลงของซัคเคอร์เบิร์กไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราภาษี โดยเฟซบุ๊กระบุว่าบริษัทจ่ายภาษีทั้งหมดที่ควรจ่าย และจ่ายเพิ่มกว่า 20% ในช่วง 5 ปีล่าสุด
ในสหราชอาณาจักร เฟซบุ๊กจ่ายภาษีนิติบุคคลเพียง 28.5 ล้านปอนด์ ( 1,165 ล้านบาท ) ในปี 2561 แม้จะสร้างยอดขายในสหราชอาณาจักรสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1,650 ล้านปอนด์ ( 67,468 ล้านบาท ) จากรายงานของสื่อ
ที่ผ่านมา หน่วยงานที่กำกับดูแลด้านภาษีมีเวลาไม่กี่เดือน ก่อนถึงกำหนดช่วงต้นเดือนม.ค.ที่พวกเขาต้องจัดการกับข้อกำหนดทางเทคนิคที่ซับซ้อน ทำให้พวกเขาตั้งเป้าว่าจะบรรลุข้อตกลงอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในช่วงสิ้นปี 2563
ในระหว่างทริปการเยือนยุโรปของเขา ซัคเคอร์เบิร์กมีกำหนดพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านภาษีและอุตสาหกรรมในวันที่ 17 ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาสองวันก่อนที่ Margrethe Vestager คณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันทางการค้าและดิจิทัลยุโรป และ Thierry Breton คณะกรรมาธิการตลาดภายในมีกำหนดจะประกาศการสร้างตลาดข้อมูลยุโรปที่เป็นหนึ่งเดียว นับเป็นการท้าทายการครองตลาดส่วนใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เช่น เฟซบุ๊ก กูเกิล และอเมซอน