คปภ.บูรณาการพันธมิตรช่วยเหยื่อทหารคลั่งที่โคราช
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุร้าย “ทหารคลั่งยิงกราด” บริเวณใจเมือง จ.นครราชสีมา กระทั่ง มีผู้เสียชีวิต 30 ราย และบาดเจ็บ 58 ราย ว่า เบื้องต้นสั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการการทำงานร่วมกับ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดย สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา ติดตามและลงพื้นที่ตรวจสอบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บว่า มีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างเต็มที่
จากรายงานเบื้องต้นทราบว่า ห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา มีการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย กรมธรรม์เลขที่ 14016-114-200001384 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 18 ธ.ค. 2563 โดยมีสัดส่วนบริษัทประกันภัยที่ร่วมรับประกันภัย ดังนี้ บมจ.ทิพยประกันภัย 40% บมจ.ฟอลคอนประกันภัย 25% บมจ.อาคเนย์ประกันภัย 15% บมจ.แอกซ่าประกันภัย 10% บมจ.ไทยไพบูลย์ประกันภัย 10% และ มีการทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (เนื่องจากภัยที่เอาประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน) กรมธรรม์เลขที่ 14059-114-200000446 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 ธ.ค.2563
รวมทั้งยังมีการทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ไว้กับ บมจ. ชับบ์สามัคคีประกันภัย กรมธรรม์เลขที่ CPL0020608PL-21136 วันที่ 18 ธ.ค.2563 เช่นกัน โดยให้ความคุ้มครองกรณีเกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอก รวมถึงผู้เช่าภายในอาคารหรือพื้นที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากความบกพร่อง การประมาทเลินเล่อความผิดพลาดในการดำเนินงานของผู้เอาประกันภัย หรือลูกจ้างของผู้เอาประกันภัย และผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นตามกฎหมาย ในฐานะเจ้าของหรือสถานที่ รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินคดี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขข้อบังคับข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคคภายนอก
เลขาธิการ คปภ. ย้ำว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการทำประกันภัย ดังนี้ นางพัชรา จันทร์เพ็ง ทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม (อุ่นใจ) ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 23 มี.ค.2563 และจัดทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล บัตร Palladium ไว้กับ บมจ. ทิพยประกันภัย, น.ส.อาริยา กลีบเมฆ ทำประกันชีวิต ไว้กับ บมจ.กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต สิ้นสุดความคุ้มครอง ถึงอายุ 85 ปี และการประกันสินเชื่อ ไว้กับ บมจ. ไทยประกันชีวิต
นายเอกวิน ยืนทน ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย, พลทหารเมธา เลิศสิริ ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจีประกันภัย, ดต.ชัชวาลย์ แท่งทอง ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย, ร.อ.ศิริวัฒน์ แสงประสิทธิ์ ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย, นายอำนาจ บุญเกื้อ ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลผ่านธนาคารออมสิน ไว้กับบมจ.ทิพยประกันภัย
นายจิรวัฒน์ รัดกลาง ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย, เภสัชกรหญิง นริศรา โชติกลาง ทำประกันแบบเพนชั่น ช้อยส์ แม็กซี่ PN25 ไว้กับ บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) และทำประกันสินเชื่อ ไว้กับ บมจ.ไทยประกันชีวิต, นายพีรพัฒน์ พละสาร ทำประกันชีวิตกลุ่ม และประกันอุบัติเหตุ ขยายความคุ้มครองกรณีถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย ไว้กับ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต
ในส่วนของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการทำประกันภัย ดังนี้ เด็กชายเจริญศักดิ์ จำปาทอง ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 พ.ค.2563, นายสิทธิศักดิ์ วาดสูงเนิน ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย, ด.ช.ธีรวัฒน์ วัชรีเสวิน ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 พ.ค.2563, พลทหารโชคชัย มูลจันทร์ ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจีประกันภัย, พลทหารอรรถพล วงศ์พล ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจี ประกันภัย
นายทิพยา แก้วพรหม ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (บัตร SMART LIFE) และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย, ดต.สามชัย แพเกาะ ทำประกันชีวิตกลุ่ม และประกันอุบัติเหตุ (คุ้มครองการเสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะ) ขยายความคุ้มครองกรณีถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย ไว้กับ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต
สำหรับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งนั่งอยู่ในรถคันที่มีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะได้รับความคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุตามเอกสารแนบท้ายตามจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกด้วย
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย และบริษัทประกันภัย ได้เร่งตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้ มีการทำประกันภัยส่วนบุคคลประเภทอื่นๆ ไว้หรือไม่ หากตรวจสอบพบ เช่น มีการทำกรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้
ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลเซนต์เมรี่ โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา และโรงพยาบาลค่ายสุรนารี สำนักงาน คปภ.ภาค 4(นครราชสีมา) และ สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าเยี่ยมและอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้แก่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บในการตรวจสอบว่าผู้บาดเจ็บมีประกันภัยประเภทอื่นๆ หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อใช้ระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาให้กับผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อันนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุเสมอ เพื่อความไม่ประมาทจึงควรทำประกันภัยในรูปแบบต่างๆ เช่น การประกันชีวิต การประกันสุขภาพ การประกันอุบัติเหตุ เพื่อนำระบบประกันภัยมาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและเข้าไปเยียวยาความสูญเสียทั้งต่อตนเองและบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบ สำหรับกรณีที่ทำประกันภัยไว้แล้ว ก็ควรตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์เพื่อระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ.