บสย. สวมบท “นายประกันรัฐ” ตั้งเป้าค้ำ SMEs แสนล.
บสย.ปรับแผนดำเนินงาน ส่งผลให้ผลงานโตก้าวกระโดด ปิดยอดค้ำและออก LG เฉียดล้านครั้งคู่ แถมช่วยหน้าใหม่กว่า 7 หมื่นราย ดันผลกำไรพุ่ง 27% เผยแผนงานปี’63 เดินเกมช่วย SMEs ในฐานะ “นายประกันของรัฐ” สานต่อมาตรการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย” เร่งปรับโครงสร้าง – ยืดหนี้ หวังสร้างโอกาสการเงิน ช่วยคนตัวเล็ก ธีม “ตัวเบา ไร้แผล มีอนาคต” ตั้งเป้าค้ำทะลุแสนล้าน
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ปธ.กก.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กก.และผจก.ทั่วไป พร้อมด้วยคณะผู้บริหารฯ ร่วมแถลงข่าวผลดำเนินงาน บสย. ปี 2562 และแผนงานในปี 2563
นายรักษ์ กล่าวว่า ผลจากการปรับโครสร้างการบริหารและกลยุทธ์ดำเนินงานช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ บสย.เติบโตทุกมิติ ทั้งด้านยอดค้ำประกันสินเชื่อ รายได้ และผลกำไร สะท้อนความแข็งแกร่งภายในขององค์กร และการทำงานเชิงรุกมุ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น
โดยปี 2562 สามารถปิดยอดค้ำประกันสินเชื่อ 90,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน ท่ามกลางสภาวะสินเชื่อ SMEs หดตัว 2% ส่วนใหญ่มาจากการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 38,010 ล้านบาท PGS7 36,681 ล้านบาท และ PGS Renew 7,281 ล้านบาท รวมถึงโครงการ Micro3 อีก 5,609 ล้านบาท และอื่นๆ
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2020/02/IMG_8665-1024x682.jpg)
ทั้งนี้ ยอดค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากการเปิดตัว PGS8 เมื่อง ส.ค.2562 พบว่ายอดการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยระหว่าง ม.ค.-ส.ค. 2562 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5,668 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ค่าเฉลี่ยเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2562 อยู่ที่ 11,378 ล้านบาท
ด้านการอนุมัติหนังสือค้ำประกัน (LG) มีถึง 91,489 ฉบับ เพิ่มขึ้น 13.1% จากปีก่อน นอกจากนี้ ช่วง ม.ค. 2563 บสย. ยังได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ โดยออก LG 14,465 ฉบับ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ก่อตั้ง บสย.มา 27 ปี ขณะที่ การช่วยลูกค้ารายใหม่ สามารถทำได้ 70,129 ราย เพิ่มขึ้น 27.6% จากปีก่อน
ด้านผลประกอบการปี 2562 มีรายได้รวม 7,793.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.23% กำไรสุทธิ 754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนที่มีเพียง 595 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากความสามารถในการบริหารกองทุน การบริหารเงินลงทุน และ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อจากการทำงานเชิงรุก เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ
นายรักษ์ ย้ำว่า กิจกรรมไฮไลท์แห่งปี ได้แก่ มหกรรมคลินิคหมอหนี้ และโครงการหมอหนี้ บสย. ซึ่งเป็นโครงการให้ความรู้และคำปรึกษาด้านการเงิน ภายใต้แนวคิด “เติมทุน เติมความรู้ เติมคุณภาพชีวิต” ที่ดำเนินการระหว่าง ก.ย.- พ.ย. 2562 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 4,000 ราย มีผู้เข้ารับคำปรึกษาผ่านคลินิกหมอหนี้ บสย. 1,119 ราย และมีความต้องการสินเชื่อกว่า 3,000 ล้านบาท สามารถเข้าถึงสินเชื่อ 338 รายคิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 2,131 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ที่ขอรับคำปรึกษาผ่านช่องทาง เฟสบุ๊ค เว็บไซต์ และ Line : @ doctor.tcg อีก 10,477 ราย
“ผลสำเร็จของ บสย. ในปี 2562 ที่โดดเด่นด้านการติดตามหนี้ คือการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการหนี้ แบบผ่อนคลาย ภายใต้กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจ เพื่อช่วยลูกหนี้ที่กำลังประสบปัญหาการชำระล่าช้า เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ การยืดหนี้ และพักชำระหนี้ แทนการฟ้อง โดยลดการจ่ายหนี้ก้อนแรกจากเดิม 10% เหลือเพียง 1% เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ขอรับการประนอมหนี้มากขึ้น โดย บสย. สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มนี้ ได้ถึง 4,029 ราย สูงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 856 ราย” นายรักษ์ ระบุ
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2020/02/บยส.-กราฟฟิก-R070263-922x1024.jpg)
สำหรับแผนงานและเป้าหมายการดำเนินงานปี 2563 นั้น จะดำเนินการภายใต้แนวคิด “ตัวเบา ไร้แผล มีอนาคต” ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อ 100,500 ล้านบาท อนุมัติ LG 112,921 ฉบับ และช่วยผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ 83,562 ราย ผ่านมาตรการรัฐ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย” โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุน ช่วยผู้ประกอบการเข้าสู่กระบวนการการปรับโครงสร้างหนี้ เติมโอกาสให้ SMEs ที่กำลังจะล้มให้ยืนได้ โดยการยืดหนี้พักชำระหนี้ สร้างโอกาสทางการเงิน ช่วย SMEs คนตัวเล็ก
ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs สร้างไทย ต่อเติม เสริมทุน วงเงิน 60,000 ล้านบาท ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ 2 ปี ค้ำประกันสูงสุด 10 ปี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของนโยบายรัฐบาล ที่ได้ให้ความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ที่มีประวัติค้างชำระ แต่ยังมีความตั้งใจดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดต่อไป นอกจากนี้ ยังจะขยายระยะเวลาการค้ำประกันสินเชื่อของ SMEs ที่อยู่ในโครงการ PGS5-7 ออกไปอีก 5 ปี ภายในกรอบวงเงิน 70,000 ล้านบาท
โดยขณะนี้ มีลูกค้า บสย. ที่อยู่ระหว่างการรอการอนุมัติ ทั้ง 2 โครงการ จำนวน 5,014 ราย วงเงินรวม 12,539 ล้านบาท โดยปัจจุบัน บสย. ให้การค้ำประกันสินเชื่อไปแล้วกว่า 856,053 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 426,198 ราย และก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 1,261,094 ล้านบาท
“ในปีนี้ บสย. ยังเดินหน้าการขับเคลื่อนองค์กรยกระดับสู่องค์กรรัฐวิสาหกิจชั้นนำ ภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ สู่การทรานส์ฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ ชูบทบาทของการเป็นองค์กรแห่งการประสานความร่วมมือ การเชื่อมโยงเงินทุน และโอกาสทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและองค์ความรู้ทั้งระบบ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาองค์กร และผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่ออย่างไม่หยุดยั้ง ยึดมั่นในธรรมาภิบาล ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สนับสนุน สร้างโอกาส ทางการเงิน ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ” นายรักษ์ กล่าว.