เก็บแว็ตทะลุ 4 หมื่นล. – ปิด “ชิมช้อปใช้”
นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยย้ำว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เริ่มมาตรการในวันที่ 27 ก.ย.2562 – 31 ม.ค.2563 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ 11,802,073 คน จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการ 14,354,159 คน ซึ่งมียอดการใช้จ่ายรวม 28,820 ล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 1 ประมาณ 11,672 ล้านบาท และการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 ประมาณ 17,148 ล้านบาท
เห็นได้ว่าสัดส่วนการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 ซึ่งเป็นเงินของประชาชนเองอยู่ที่ร้อยละ 60 มีสัดส่วนมากกว่า g-Wallet ช่อง 1 ซึ่งเป็นส่วนของแรงจูงใจจากภาครัฐ โดยจากร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการทั้งหมดกว่า 170,000 ร้านค้า ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดเล็กซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรการที่ต้องการให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในร้านค้าชุมชนโดยมีการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดใหญ่ที่เพียงร้อยละ 8 ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด
นอกจากนี้ การใช้จ่ายได้มีการกระจายไปครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเป็นการใช้จ่ายในเมืองรองมากกว่าในเมืองหลักคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 หรือมูลค่ามากถึง 17,000 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบยอดการใช้จ่ายต่อวันต่อคนพบว่า มีการใช้จ่ายในเมืองรองมากกว่าเมืองหลักทั้ง g-Wallet ช่อง 1 และ 2 และเฉพาะในเมืองรองพบว่าการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 มีมากกว่า g-Wallet ช่อง 1 ถึง 16 เท่า โดยมียอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเฉพาะการเก็บบนฐานการใช้จ่ายภายในจังหวัดอยู่ที่ 41,983 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.4 ต่อปี
สะท้อนว่า มาตรการชิมช้อปใช้มีส่วนช่วยพยุงการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรการ อีกทั้งผลทางอ้อมของมาตรการนี้ได้สร้างการเรียนรู้และความคุ้นชินในการทางเทคโนโลยีทางการเงินให้แก่ประชาชนมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ โครงการสนับสนุนมาตรการ “ชิมช้อปใช้” โดยการลุ้นรับของสมนาคุณมูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาท ของธนาคารกรุงไทย ประกอบด้วย รถยนต์ Toyota Altis รถกระบะ Toyota Hilux Revo รถจักรยานยนต์ Honda New PCX150 โทรทัศน์ดิจิทัล Samsung TV55 และทองคำรวมกว่า 600 รายการ ได้รับความสนใจจากประชาชนและร้านค้าเป็นอย่างมาก
ด้าน นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า โครงการชิมช้อปใช้เฟส 1-3 ของรัฐบาล ที่สิ้นสุดไปในวันที่ 31 ม.ค.63 นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ โดยพี่น้องประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการได้จับจ่ายใช้สอยผ่านแอพเป๋าตังอย่างต่อเนื่องมากถึง 12.6 ล้านราย อีกทั้งมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 1.7 แสนร้าน ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากร่วม 29,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการทั้งพี่น้องประชาชนและร้านค้า ยังมีโอกาสร่วมลุ้นโชคใหญ่มูลค่า 12 ล้านบาท ของรางวัลประกอบด้วย Toyota Altis (limo) มูลค่า 829,000 บาท 1 คัน Toyota Hilux Revo 3 คัน Honda PCX150 (2019) 16 คัน TV Samsung 55 นิ้ว 32 เครื่อง ทองคำแท่งราว 500 แท่ง โดยเริ่มจับรางวัลครั้งแรกในวันที่ 20 ธ.ค.2562 และจับรางวัลครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในวันนี้ (3 ก.พ.2563)
รางวัลที่ 1 รถยนต์ Toyota Altis เป็นของคุณเสถียร วิไพบูลย์ อายุ 54 ปี เป็นชาว จ.นครราชสีมา อาชีพทำนา ซึ่งปกติแล้วใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนไม่ค่อยเป็น แต่ลูกชายเป็นคนสมัครให้ โดยเข้าโครงการตั้งแต่เฟสแรกที่รัฐบาลแจกเงิน 1 พันบาท หลังจากได้ใช้แล้วรู้สึกสะดวกคล่องตัวไม่ต้องพกเงินสด เลยมีการนำไปใช้กันทั้งครอบครัว พร้อมกับเติมเงินเข้าแอพเป๋าตังและใช้จ่ายเกิน 5 หมื่นบาท โดยที่มีการนำไปใช้จ่ายในหลายจังหวัดทั้งที่ขอนแก่นและโคราช เช่น ซื้อสินค้าชุมชนคือผ้าไหมฝากญาติพี่น้องหลายหมื่นบาท ตอนนี้ภรรยาใช้งานคล่องแล้ว และหากรัฐบาลทำโครงการนี้ต่อไปก็จะเข้าร่วมอีก ทั้งนี้ ตอนสมัครก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้รับรางวัลอะไร แต่พอทราบว่าได้รับรางวัลที่ 1 รถยนต์ราคาเกือบหนึ่งล้านบาท ก็ดีใจมาก
ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับของรางวัลทุกคน พร้อมกันนี้ขอฝากให้พี่น้องประชาชนที่จับจ่ายใช้สอยผ่านโครงการชิมช้อปใช้ รวมถึงร้านค้าผู้ประกอบการ อย่าลืมไปตรวจสอบรายชื่ออย่างละเอียด เพราะอาจเป็นผู้ได้รับโชคจากการจับรางวัลของสมนาคุณทั้ง 6 ครั้ง โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ทางเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com ผู้ที่ได้รับรางวัลให้นำหลักฐานมาแสดงเพื่อรับรองภายใน 30 วันนับจากวันที่ประกาศรายชื่อ.