‘ทรัมป์’ ชูดีลการค้าจีนดีเกินคาด
ออสติน (AFP) – เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวยกย่องข้อตกลงการค้ากับจีนที่เพิ่งลงนามไปเพื่อเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีน โดยระบุว่า “ดีกว่า” ที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ข้อตกลงการค้าเฟส 1 นับเป็นการพักรบของสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ หลังจากมีความตึงเครียดมานานเกือบ 2 ปี แต่เนื่องจากมาตรการภาษียังมีการบังคับใช้อยู่ประมาณ 2 ใน 3 จากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าจากจีน ทำให้ผู้บริโภคและธุรกิจในสหรัฐฯยังคงต้องแบกภาระในการใช้จ่ายส่วนนี้อยู่
“ นี่เป็นความสำเร็จที่ไม่น่าเชื่อสำหรับประเทศของเรา ” ทรัมป์ระบุ.ในช่วงเย็นของวันที่ 19 ม.ค.ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยเขากล่าวในการประชุมของสมาพันธ์เกษตรกรรมแห่งชาติ
“ ผมคิดว่าข้อตกลงที่เซ็นไปเป็นข้อตกลงที่ดี มันครอบคลุมมากกว่าและดีกว่าที่ผมเคยคิดว่าจะได้ ” เขากล่าว
ทรัมป์ยังได้ยกย่องบทใหม่ในความสัมพันธ์กับปักกิ่ง โดยเรียกว่า “ ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยมีกับจีนในรอบหลายปี ตอนนี้จีนเคารพเรา ” ทรัมป์กล่าว
สหรัฐฯและจีนลงนามในข้อตกลงการค้าเฟส 1 เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผ่อนคลายหลังจากตึงเครียดมานาน
การลงนามในข้อตกลงยังเป็นการเพิ่มเครดิตให้กับทรัมป์ที่กำลังเผชิญกับกระบวนการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งจากการไต่สวนของวุฒิสภาในสัปดาห์นี้ และตามมาด้วยการต่อสู้เพื่อลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกสมัย
ในข้อตกลงยังรวมถึงการที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นๆจากสหรัฐฯมากขึ้นในช่วง 2 ปีนี้ , ให้ความคุ้มครองปกป้องเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และมีการดำเนินการใหม่ที่ทำให้สหรัฐฯ สามารถปรับจีนได้อย่างรวดเร็วหากจีนไม่ปฏิบัติตาม
แต่ประเด็นยากๆยังคงต้องมีการเจรจาต่อไป รวมถึงประเด็นที่จีนให้เงินอุดหนุนกับอุตสาหกรรมของประเทศ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ว่า จีนไม่ได้มีข้อผูกพันอย่างเฉพาะเจาะจงว่า จีนจะลดภาษีที่จัดเก็บเพื่อตอบโต้สหรัฐฯลง
ทรัมป์กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าข้อตกลงการค้าเป็นชัยชนะของเกษตรกรอเมริกัน ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามภาษี
การส่งออกถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ไปจีนดิ่งฮวบลงมาอยู่ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 และรัฐบาลของทรัมป์ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรไปมากถึง 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา.