ฮ่องกงหวังการค้า/การเงินช่วยฟื้นศก.
ฮ่องกง (บลูมเบิร์ก) – รัฐบาลฮ่องกงกำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจปีนี้ให้พลิกขึ้นมาจากหายนะ เหมือนกับในช่วงเวลาที่ฮ่องกงต้องพยายามฟื้นเศรษฐกิจหลังเกิดโรค Sars ระบาดในปี 2546
แต่ตอนนี้นับว่า “เลวร้ายน้อยกว่าเมื่อก่อน” จากผลการประเมินดัชนีความเชื่อมั่นสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยได้อานิสงส์จากเทศกาลช้อปปิ้งช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาซึ่งปลอดจากการประท้วงที่รุนแรงตามท้องถนน
แถลงการณ์ที่เป็นทางการ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่มองในแง่ร้ายน้อยลง หลังจากเกิดสถานการณ์ความไม่สงบนาน 7 เดือนจากผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ส่งผลกระทบกับห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง และทำให้เศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
ยังไม่มีการแก้ไขทางการเมืองจากทางรัฐบาลปักกิ่ง และสถานการณ์การท่องเที่ยวคงไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อนที่นักท่องเที่ยวจากจีนเคยหลั่งไหลเข้ามาที่ฮ่องกงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 5.5 ล้านคนในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม โอกาสในการฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของฮ่องกงขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของภาคการเงินและการค้าที่มีบทบาทสำคัญในการค้ำจุนเศรษฐกิจจีนมาโดยตลอด
“ มีการเปิดขายหุ้น IPO มากขึ้นในฮ่องกงปีนี้ มีการออกตราสารหนี้มากขึ้นในตลาดการเงิน ตลาดดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะบริษัทจีนต้องการระดมทุนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ” Alicia Garcia Herrero หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียแปซิฟิกประจำ Natixis ระบุ ความเชื่อมั่นที่สดใสขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กชี้ว่า “ฮ่องกงยืดหยุ่น ปรับตัวดีมาก” เธอกล่าว
อย่างไรก็ตามรัฐบาลประเมินว่าเศรษฐกิจหดตัว 1.3% ในปี 2562 และคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะชะงักงันในปี 2563 นี้ โดยพอล ชาน รมว.คลังระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะมีการเทงบใช้จ่ายงบประมาณประจำปี เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบก่อนหน้านี้ ไม่ส่งผลที่น่าประทับใจนัก
โดยรัฐบาลฮ่องกงเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายเวลาการลดค่าโดยสารให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จากเดิมสำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ขณะที่มีข่าวร้ายเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน อัตราการว่างงานสูงขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ล่าสุด สายการบินคาเธย์แปซิฟิก ซึ่งเป็นสายการบินเรือธงของฮ่องกง เตรียมเสนอให้พนักงานหยุดพักงานโดยไม่ได้ค่าจ้าง จากรายงานของสื่อ SCMP
แม้การท่องเที่ยวจะย่ำแย่ แต่ภาคการเงินยังคงสดใส โดยตลาดหุ้นฮ่องกงสามารถระดมทุนได้สูงถึง 40,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 1.22 ล้านล้านบาท ) ในปีที่แล้ว จากรายงานของบลูมเบิร์ก
บริษัทจีนคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของเงินที่ไหลเวียนในตลาดหุ้น โดย KPMG ทำนายว่า การขายหุ้น IPO ในปีนี้จะทำเงินได้ถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ( 1.18 ล้านล้านบาท) จากการประเมินเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
“ มีนักลงทุนทั่วโลกจำนวนมากที่ต้องการลงทุนในหุ้นจีนและผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ และพวกเขาลงทุนผ่านฮ่องกง” Tommy Wu นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสที่ Oxford Economist ในฮ่องกงระบุ “ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยน ”
สำหรับธนาคารรายใหญ่อย่าง HSBC และ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ นักวิเคราะห์คาดว่า จะมีความมั่นคงขึ้นในปี 2563 แม้จะถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับจุดยืนทางการเมืองในประเทศเป็นบางครั้งในปี 2562 ที่ผ่านมาก็ตาม
ที่จริงแล้ว ในปี 2562 สงครามการค้าส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของฮ่องกงก่อนหน้าการประท้วงจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย. ที่เห็นได้ชัดคือท่าเรือ โดยการส่งออกในเดือนต.ค.ดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา
“เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินและความสามารถในการแข่งขันของฮ่องกงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง” รมว.ชานระบุในการให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนกับสื่อบลูมเบิร์ก “ ฮ่องกงยืดหยุ่น ฟื้นตัวเร็ว”