EA ขายไฟโรงไฟฟ้าหนุมานปลายปีนี้
EA ผลงานครึ่งหลังปี 61 โตแรง เตรียมขายไฟโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมานไตรมาส 4 ปีนี้ เดินหน้าโรงงานแบตเตอรี่ในเฟสแรก ขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง มูลค่าลงทุน 4,000 ล้านบาทแล้ว คาดแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ในปลายปี62
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2561 คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานงานลม อีกทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน จังหวัดชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ เตรียมขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 4ปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งจากโซลาร์ฟาร์มและวินด์ฟาร์ม เพิ่มขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์ ผลักดันให้รายได้และกำไรในปี 2561-2562 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
“แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงเป็นไปด้วยดีตามที่คาดไว้ หลักๆ มาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม “โครงการหาดกังหัน” ที่ COD เมื่อกลางปีที่แล้ว และ “โครงการหนุมาน” ที่จะ COD ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีสำหรับ Wind Farm ที่ cycle ปกติของลมจะพัดแรงในช่วงฤดูฝน หรือระหว่างช่วงไตรมาส 3 – 4 ส่งผลให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าครึ่งปีแรก แม้ว่าในช่วงระยะเวลาเดียวกันนั้น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะได้รับผลกระทบจากฤดูฝนจนทำให้ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงไปบ้าง แต่เมื่อรวมผลผลิตไฟฟ้าที่ได้จาก Wind Farm แล้ว ยังคงเห็นการเติบโตของรายได้และกำไรตามที่คาดไว้ ผลักดันให้กระแสเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแรงและพร้อมที่จะขยายการลงทุนโครงการใหญ่ต่างๆ ตามแผนงานที่วางไว้ได้ต่อไปในอนาคต”
สำหรับความคืบหน้าในส่วนของธุรกิจแบตเตอรี่นั้น ได้เริ่มการก่อสร้างโรงงานในเฟสแรกขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) มูลค่าลงทุน 4 พันล้านบาท ไปบางส่วนแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ในปลายปี 2562 แบตเตอรี่ในรุ่นแรกนี้ จะเน้นการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนเฟสที่สองจะทำการลงทุนหลังจากบรรลุผลสำเร็จของการดำเนินงานในเฟสแรกแล้ว โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 49 GWh และขยายเทคโนโลยีและตลาดไปครอบคลุมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าและ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อีกด้วย
ด้านแผนการลงทุนโรงงานผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลและกลีเชอรีนที่จะนำปาล์มมาเป็นวัตถุดิบ 1.2 ล้านลิตรต่อวัน งบลงทุน 2 พันล้านบาท เพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กรีนดีเซล และ PCM (สารแปรสภาพ) คิดเป็น 10% ของกำลังการผลิต ขณะนี้บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผน โดยบริษัทมีเงินลงทุนรองรับโครงการดังกล่าว เพราะมีมูลค่าลงทุนไม่มาก ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้เริ่มโครงการนำร่องแล้วราว 1 ตันต่อวัน เพื่อเป็นต้นแบบผลิตให้กับลูกค้าทดลองใช้
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2561 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 2,926 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 985 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 มีรายได้รวม 6,754 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,932 ล้านบาท.