พรรคการเมืองจัดทัพเตรียมพร้อมเลือกตั้ง
หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ประกาศบังคับใช้ และ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” แย้มว่าการเลือกตั้งจะเริ่มกระบวนการภายในปี 2561 ทำให้พรรคการเมืองต่างเตรียมความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้ว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับเลือกตั้งมี 2-3 เรื่องที่จำเป็นใน 4 ฉบับ และอีก 6 ฉบับก็สำคัญซึ่งเป็นไปตามเวลาที่เขากำหนดมาแล้วว่ากี่เดือนขออย่างเดียวว่าปีหน้าจะทำอะไร ก็ไปเดินหน้ากัน ตอนนั้นขั้นตอนการเลือกตั้งก็ไปเริ่มปีหน้า (2561) ซึ่งยังอยู่ในกรอบเวลา 8 เดือน แต่ปีนี้มีพิธีพอดี ต้องไปเริ่มนับ 3 กันตอนนู้นพอปีใหม่ไปแล้วก็เริ่มกัน ทั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เตรียมการเลือกตั้ง ค่อยๆทยอยไป แต่ไม่ใช่พอเริ่มปีใหม่จะต้องเริ่มวันที่ 1 เลยมันใช่ที่ไหน มันต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้งการหาเสียง ประชุมพรรค มีเวลา 5 เดือน อย่ามาทวงผมว่า ไหนบอกว่าปีหน้า ก็ 5 เดือนไง แล้ว 5 เดือน รัฐบาลประชุมตั้งสภาอย่างน้อย 2 อย่างมาก 3 เดือนก็จะได้รัฐบาล
ด้านความเคลื่อนไหวของนักการเมือง เริ่มจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อมีการเลือกตั้งก็ไม่มีปัญหา เราพร้อมทุกคนอยู่แล้ว และสิ่งสำคัญที่สุดพรรคฯจะต้องตอบสนองต่อการทำงานของประชาชนแก้ปัญหาต่างๆของประชาชนและประเทศในปัจจุบัน ซึ่งพรรคจะมีการปรับนโยบายด้วยการรับสมัครคนรุ่นใหม่ไฟแรง มีความรู้ ความสามารถอยู่เหนือคู่แข่งเข้ามามีส่วนร่วมในการลงสมัครเลือกตั้ง ส่วนนโยบายที่จะเป็นจุดขายจะเน้นนโยบายเข้าสู่ยุคปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติให้ครอบคลุมทุกด้าน
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแต่เวลานี้จะต้องทำกฎ ระเบียบที่มีการวางไว้ และเรามีเวลา 12 – 18 เดือนในการเตรียมตัว ซึ่งพรรคฯไม่กังวลในเรื่องของการเตรียมตัว เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราไม่ใช่พรรคใหญ่ แต่มีฐานทุนที่ดี มีสมาชิกที่มีคุณภาพ คุ้นเคยกับพื้นที่ เราจึงพร้อมตลอดเวลา ไม่ว่าจะมีเวลาให้เท่าไหร่ก็ตาม ถ้าพรรคภูมิใจไทยบอกว่าไม่พร้อม ก็อย่ามาเลือกพรรคภูมิใจไทยเลย
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ไว้แล้ว โดยยึดตามโรดแม็พเดิมซึ่งจะมีการเลือกตั้งสิ้นปี 2560 แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีระบุจะมีการเลือกตั้งในกลางปี 2561 ก็ไม่มีปัญหาขยับเวลาออกไปเล็กน้อย ระหว่างนี้พรรคจะเตรียมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายพรรคการเมืองและรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาจะถือเป็นพรรคการเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยวางตัวให้คนรุ่นใหม่เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนการรณรงค์การเลือกตั้ง จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งลงทั่วประเทศ
ส่วน “พรรคเพื่อไทย” กลับใช้วิธีการออกแถลงการณ์ มีเนื้อหาว่า รัฐบาลและคสช. ควรเร่งดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ในกรอบระยะเวลาตามที่นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้เคยประกาศย้ำมาตลอด ทั้งในประเทศและในเวทีโลกว่า ได้วางโรดแมปการเลือกตั้งไว้ต้นปี 2561 และในช่วง 5เดือนเศษที่ผ่านมา ก็ได้มีการเตรียมการร่างกฎหมายลูกมาแล้วในระดับหนึ่ง และนับแต่นี้ต่อไป รัฐบาลและ คสช. ควรจะสร้างบรรยากาศประชาธิปไตย เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งและการสร้างความสามัคคีปรองดอง โดยปราศจากอคติอย่างเคร่งครัด ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
ส่วน นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยืนยันว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งภายในสิ้นปี 2560 หรือช่วงเดือนม.ค.ปี 2561 ตามที่มีนักวิชาการออกมาระบุ เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 8 เดือนนับจากนี้ จะต้องทำการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.ป.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ซึ่งการร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และยังจะต้องดูความพร้อมของ กกต. และ พรรคการเมืองด้วยว่ามีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งมากแค่ไหน