เหยื่อข่มขืนถูกจุดไฟเผาขณะไปศาลอินเดีย
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ตำรวจรายงานว่า เหยื่อที่ถูกข่มขืนวัย 23 ปี ถูกชายกลุ่มหนึ่ง รวมทั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุในคดี จุดไฟเผาเธอในระหว่างที่เธอกำลังเดินทางไปขึ้นศาลทางตอนเหนือของอินเดีย ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรงกับอาชญากรรมที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อมากขึ้น
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวอินเดียหลายพันคนออกมาประท้วงในหลายเมืองเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเหยื่อ ซึ่งเป็นสัตวแพทย์วัย 27 ปีที่ถูกข่มขืนและฆ่าในเมืองไฮเดอราบัด
ทางตอนใต้ของอินเดีย
“ เราไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้วในอินเดีย เรากลัวมากที่ต้องออกจากบ้าน” นักศึกษาสาวชื่อ Sejal Kumar ที่มาร่วมประท้วงให้สัมภาษณ์สื่อ
กลุ่มผู้ประท้วงและบรรดาส.ส.กำลังกดดันศาลให้เร่งรัดกระบวนการพิจารณาและตัดสินคดีข่มขืนให้เร็วขึ้นและเรียกร้องให้ลงโทษจำเลยสถานหนัก
โดยเหยื่อที่ถูกทำร้ายและจุดไฟเผาเมื่อเช้าวันที่ 5 ธ.ค.ยังอยู่ในภาวะวิกฤต จากการรายงานของนายแพทย์ D.S.Negi แพทย์ประจำโรงพยาบาลโยธาใน Lucknow เมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ
ตำรวจรายงานว่า ในช่วงเกิดเหตุ เธอกำลังเดินไปขึ้นรถไฟในเขต Unnao เพื่อไปฟังการไต่สวนดคีที่ศาล โดยเธอถูกราดน้ำมันและจุดไฟเผา
“ จากคำให้การของเหยื่อ มีชายประมาณ 5 คนที่รุมเข้ามาจุดไฟเผาเธอ ซึ่งรวมถึงผู้ต้องหาที่เธอฟ้องศาลว่าเป็นคนข่มขืนเธอด้วย ” โดยตำรวจระบุในทวิตเตอร์ว่า ชายผู้ก่อเหตุทั้ง 5 รายถูกควบคุมตัวไว้หมดแล้ว
สำนวนคดีของตำรวจที่สื่อรอยเตอร์ได้เห็นระบุว่า เหยื่อได้เข้าแจ้งความกับตำรวจใน Unnao เมื่อเดือนมี.ค.ว่า เธอถูกปืนจ่อหัวและถูกข่มขืนเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2561 หลังจากถูกคุมขัง ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนนี้ถูกปล่อยตัวออกมาในสัปดาห์ที่แล้วหลังได้รับการประกันตัว ตำรวจระบุ
รัฐอุตตรประเทศเป็นรัฐที่เกิดคดีอาชญากรรมกับสตรีมากที่สุดในอินเดีย โดยในปี 2560 มีคดีข่มขืนมากกว่า 4,200 คดี
รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งปัจจุบันเป็นฐานเสียงสำคัญและอยู่ในการกำกับดูแลของพรรค BJP ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ประสบปัญหาใหญ่เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากฝ่ายค้านกล่าวหาว่า รัฐบาลปกป้องส.ส.คนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุข่มขืน
