ไต้ฝุ่น ‘คัมมูริ’ ถล่มฟิลิปปินส์ ดับ 4
มะนิลา – เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. พายุไต้ฝุ่นคัมมูริขึ้นฝั่งที่ฟิลิปปินส์ ทำให้มีฝนตกหนักและลมแรงทั่วเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของประเทศ
มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายและทำให้ต้องมีการอพยพประชาชนเกือบ 5 แสนคน โดยไต้ฝุ่นคัมมาริเป็นพายุลูกที่ 20 ของปีนี้ ขึ้นฝั่งมาในวันที่ 2 ธ.ค.และเคลื่อนผ่านทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม ดินถล่มและสตอร์มเซิร์จ
โดยรัฐบาลประกาศระงับการเดินทางทางอากาศและทางน้ำ มีการสั่งปิดสนามบินหลักในกรุงมะนิลาตลอดทั้งวันในวันที่ 3 ธ.ค. ขณะที่มีการระงับการเดินทางทางทะเลในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ
ฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ส , เซบู แปซิฟิก และแอร์เอเชียยกเลิกเที่ยวบินกว่า 490 เที่ยวบิน และมีประชาชนอย่างน้อย 6 พันคนที่ถูกยกเลิกการเดินทางทางทะเล
หน่วยงานราชการและโรงเรียนปิดในพื้นที่ประสบภัย และบริษัทที่ให้บริการสาธารณูปโภคร้องขอให้ประชาขนอดทนหากมีไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง
ไต้ฝุ่นคัมมูริมีแรงลมถึง 155 กม./ชม.ใกล้ศูนย์กลางและเคลื่อนตัวด้วยความเร็วถึง 235 กม./ชม.จากรายงานพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วง 08.00 น. ในช่วงบ่าย พายุอ่อนกำลังลงเล็กน้อยลงมาอยู่ที่ 205 กม./ชม. พายุทำให้มีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักใน 4 จังหวัดในเขตบีโคล
รายงานข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นภาพสนามบินเลกาซปีในจังหวัดอัลเบย์ ที่สายไฟ โคมไฟหล่นลงมาจากเพดาน
ไฟฟ้าดับใน 10 พื้นที่ในลูซอน เนื่องจากลมกระโชกแรงส่งผลกับสายไฟ “มันเหมือนถูกกรรไกรตัดเลย” Claudio Yucot ผอ.ฝ่ายป้องกันพลเรือนในบีโคลระบุ
เขาระบุว่า เขาได้รับรายงานว่าชายอายุ 33 ปีเสียชีวิต เมื่อเขาจับสายไฟเพราะเขาพยายามจะกองหลังคาไว้ด้วยกัน
ตำรวจรายงานว่า ไต้ฝุ่นยังถล่มเกาะมินดาเนา ทำให้มีชายคนหนึ่งถูกต้นไม้ล้มทับและอีกคนเสียชีวิตเพราะท่อนไม้ปลิวมาโดนเขา นอกจากนี้ ตำรวจระบุว่า คนงานก่อสร้างรายหนึ่งเสียชีวิตในเมืองออร์มอค ในจังหวัดซามาร์
ไต้ฝุ่นคัมมาริยังส่งผลกระทบกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ซึ่งมีพิธีเปิดในวันที่ 30 พ.ย.และมีกำหนดเสร็จสิ้นการเข่งขันในวันที่ 11 ธ.ค.
โดยไต้ฝุ่นคัมมาริถูกนำไปเปรียบกับไต้ฝุ่นที่ถล่มฟิลิปปินส์ในปี 2557 และ 2549 ซึ่งมีกำลังลมแรงและทำความเสียหายในช่วงเวลาเดียวกันของปี โดยไต้ฝุ่นปี 2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย ขณะที่ไต้ฝุ่นในปี 2549 เสียชีวิตกว่า 730 ราย
ฤดูไต้ฝุ่นมักจะสิ้นสุดลงในเดือนต.ค. แต่เริ่มลากยาวถึงเดือนธ.ค.ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา เป็นปรากฎการณ์ที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในเดือนพ.ย.2556 ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่ส่งผลร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นทั่วตอนกลางของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,300 ราย และทำให้มีการอพยพย้ายถิ่นฐานประมาณ 4 ล้านคน.