ปรับแผนรปภ. “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”
“ผมไม่ทราบว่าใครมาขู่ฆ่าผม ไม่รู้จริงหรือไม้ไปดูเอาในโซเชียลมีเดีย ไม่รู้ฝ่ายไหนเหมือนกัน จึงต้องระวังตัวผมทำงานเพื่อบ้านเมือง ส่วนสาเหตุที่พุ่งเป้ามาที่ผมนั้น ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร”
คำพูดของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ที่อยู่ๆพี่ใหญ่แห่งค่ายบูรพาพยัคฆ์ออกมาปูดปมระทึกขวัญ!ว่ามีคนจ้อง “ลอบฆ่า” ผ่านโซเชียลมีเดีย
เล่นเอาคนทั้งประทศตกอกตกใจ!กันยกใหญ่ และยังพบรายงานข่าวจากกองทัพบก (ทบ.) ระบุว่ายังพบข้อความขู่สังหาร “ผู้นำประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. จากมือโพสต์ร้านดังในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ทำเอาฝ่ายความมั่นคง หน่วยข่าวกรอง บรรดาบิ๊กทหาร ออกมาส่งสัญญาณรปภ.เข้ม โดยเฉพาะ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยืนยันว่า “ที่ผ่านมามีการดำเนินการในเรื่องของการวางระบบการรักษาความปลอดภัย ค่อนข้างเข้มงวด ใครที่เป็นเป้าหมายเราก็ดูแลในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญในรัฐบาล”
แน่นอนว่า หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ข่าวลอบปองร้ายครั้งนี้ ว่าเป็นเพียงการโยนหิน เพื่อหวังกลบกระแสข่าวปมร้อนที่รุมเร้ารัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ทั้งปัญหาการทุจริต คอรัปชั่นที่ต่างชาติออกมาปูดอยู่ตลอด ทำให้ “ผู้นำประเทศ” หัวเสียอยู่ไม่น้อย
เห็นได้จากคำสัมภาษณ์ของ “บิ๊กตู่” ว่า “กำลังหาตัวคนโพสต์อยู่ว่า เอาข้อมูลมาจากไหน ซึ่งกลุ่มที่ละเมิดสถาบันที่อยู่ในต่างประเทศเป็นคนเริ่มพูดเรื่องนี้ก่อน ผมไม่ได้ประมาท หรือท้าทายใคร แต่คิดว่า ทุกคนมีชะตากรรม และชะตาชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งผมไม่ได้ห่วงชะตาของตัวเอง แต่ห่วงชะตาของประเทศมากกว่า”
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมตัว มือโพสต์ข้อความข่มขู่ โดยมีการขยายผลว่าอาจจะเชื่อมโยงกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล กลุ่มทำผิดคดีมาตรา 112 ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ
เป็นที่น่าสังเกตว่าข่าวการ “ลอบฆ่า” บุคคลสำคัญในรัฐบาลไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ก่อนนี้ในช่วงที่รัฐบาลและคสช.เข้ามาบริหารประเทศ มีข่าวขู่ฆ่า“บุคคลสำคัญ” ในรัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง และกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่เข้าช่ายจะโยงกับกลุ่มบุคคลที่อยู่ต่างประเทศทั้งสิ้น
นอกจากนี้ การตกเป็นเป้าสังหาร ทำให้กองทัพ และหน่วยงานความมั่นคง รวมถึงทีมรักษาความปลอดภัยของนายกฯและรองนายกฯ ต้องเพิ่มการระมัดระวังอารักขาบุคคลสำคัญในรัฐบาลให้เข้มข้นมากขึ้นตามคำสั่งของ “บิ๊กเจี๊ยบ”
ตามอาการแบบนี้ทีมรักษาความปลอดภัย“บิ๊กตู่” ยกระดับมาตรการอารักขา โดยยังใช้ทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ขณะที่การปฏิบัติภารกิจนอกสถานที่ จะมีทีมทหารจาก ร.21 รอ. พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ และหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าประจำจุดก่อน 2 ชั่วโมง เพื่อเตรียมการสถานที่ล่วงหน้า
ขณะที่ทีมรักษาความปลอดภัยของ “บิ๊กป้อม” ใช้ทหารที่มาจากหลายหน่วย โดยมีหัวหน้าชุดมาจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) และรถยนต์ส่วนตัวทีใช้ยังคงเป็นยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูกันกระสุน ติดฟิล์มดำ รถจักรยานยนต์ขับประกบฝั่งซ้ายของรถยนต์ โดยมีการเพิ่มรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ปิดท้ายขบวน
เจอทั้งศึกนอก-ศึกในรุมกระหน่ำ ไหนจะการสร้างความปรองดองในประเทศที่เพิ่งเริ่มตั้งไข่ ยังมาเจอข่าวขู่ฆ่าที่เป็นภัยคุกคามทั้ง “พี่ใหญ่”-“พี่เล็ก” คงต้องเหนื่อยอีกหลายยยก.