อีเจเอฟชมไทยแก้ปัญหาประมง
“บิ๊กป้อม” เปิดบ้านเกษะโกมล รับ ผอ.ใหญ่มูลนิธิยุติธรรมและสิ่งแวดล้อม (EJF) ร่วมถก บิ๊กบี้-บิ๊กณะ-ผช.รมว.กต. ชื่นชม ไทยแก้ปัญหาแรงงานประมง
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ห้องรับรองบ้านเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้มูลนิธิยุติธรรมและสิ่งแวดล้อม (EJF) นำโดย Mr. Steve Trent ผู้อำนวยการใหญ่ของ EJF พร้อมด้วยคณะเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือใน 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาการทำประมงของไทย และประเด็นการปฏิรูปการทำประมงของไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ EJF ได้รับทราบความคืบหน้าและความพอใจในความก้าวหน้าเกี่ยวกับการจัดการแก้ปัญหาการทำประมงของไทย ตลอดจนการปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองแรงงานในเรือประมง
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า นอกจากนั้น EJF ยังได้ให้ข้อสังเกตที่เป็นข้อเสนอแนะแก่ประเทศไทยซึ่ง EJF ได้ทำการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบกับมาตรฐานสากล โดยเฉพาะด้านการจัดการเรือประมงและการดูแลแรงงานซึ่งจะทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ และถือว่าเป็นชัยชนะร่วมกันทั้งของประเทศไทยและนานาประเทศ ทั้งนี้ EJF เชื่อมั่นว่ามาตรการของรัฐบาลไทยจะได้รับการยอมรับจากตลาดผู้บริโภคทั้งในยุโรปและอเมริกา โดยจะทำให้ผลิตภัณฑ์สินค้าทางทะเลของไทยไม่ถูกต่อต้านจากตลาดระหว่างประเทศส่งผลให้มีรายได้เข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผลประโยชน์จากการทุ่มเทการทำงานในครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศโดยทำให้มีการจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมประมงทะเลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ตลอดจนอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่า 100,000 คนและสร้างรายได้ให้ประเทศกว่าปีละ 100,000 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ทางพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ระบุว่าได้รับรายงานในส่วนการแก้ปัญหาแรงงานประมงทะเล ที่ส่วนมากเป็นแรงงานต่างด้าว รัฐบาลถือเป็นนโยบายสำคัญในการจัดระบบบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว เพื่อให้เข้าสู่การทำงานที่ถูกต้อง ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2 ก.พ.59 ให้มีการขยายจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เมียนมา ลาว และกัมพูชาในกิจการประมงทะเล โดยให้จดทะเบียนใน 22 จังหวัดชายทะเลถึงวันที่ 31 ก.ค.59 ข้อมูล ณ 7 เมย.59 มาจดทะเบียนแล้ว 27,085 คน นายจ้าง 7,932 ราย และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำให้จดทะเบียนได้ถึง 22 สค.59 ใน 22 จังหวัดชายทะเลและใน 4 ศูนย์ OSS ใน กทม. มีมาจดแล้ว 67,823 คน นายจ้าง 6,560 ราย ซึ่งจะทำให้นายจ้างจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้อง และกระทรวงแรงงานจะได้คุ้มครองดูแลให้สิทธิประโยชน์ที่พึงมีแก่แรงงานต่างด้าวตามหลักสากลด้วย.