ครม.ชูเฟส 3 “ชิมช้อปใช้” จ่ายเป๋า 2 ได้ทั่วไทย
ครม.หนุนต่อ “ชิมช้อปใช้ เฟส 3” เปิดรับลงทะเบียน 2 ล้านคน กันให้เฉพาะคนแก่ 5 แสนคน พร้อมขยายเวลาทั้ง 3 เฟส สิ้นสุด 31 ม.ค.63 พร้อมกัน หวังกระตุ้นช่วงปีใหม่ต่อเนื่องตรุษจีนปีหน้า ย้ำงดแจก 1,000 บาทในกระเป๋า 1 หวั่นงบประมาณบานปลายเกิน 1.9 หมื่นล้านบาท พร้อมขยายขอบเขตการใช้จ่ายเป็นทั่วประเทศ แถมซื้อแพ็คเกจทัวร์ (ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าอาหารและที่พัก) ได้อีก
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอขยายมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ระยะที่ 3 (เฟส 3) ว่า ในส่วนมาตรการฯ ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 นั้น เดิมจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.62 แต่ระยะที่ 3 นี้ จะขยายเพิ่มเติมทั้ง 2 ระยะจากเดิมไปเป็นวันที่ 31 ม.ค.63 พร้อมกัน ครอบคลุมช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีน
โดยเฟส 3 นี้ จะเปิดให้ลงทะเบียนช่วงเช้า 06.00 น.และในช่วงเย็น 18.00 น. รวมกันไม่เกิน 2 ล้านคน โดยครั้งนี้ จะเพิ่มกรณีคนชราหรือผู้สูงอายุ ซึ่งลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ตได้ช้ากว่าคนหนุ่มสาว สามารถลงทะเบียนได้เป็นกรณีพิเศษ 500,000 คน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุ เหลือให้กลุ่มประชาชนทั่วไปได้ลงทะเบียน 1.5 ล้านคน รวมทั้ง 3 เฟส 15 ล้านคน
ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้เงินงบประมาณเป็นไปตามแผนเดิมที่วางแผนไว้ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ชิมช้อปใช้” วงเงิน 19,000 ล้านบาท ซึ่งเฟส 1 และ 2 กระทรวงการคลังได้ใส่เงินในกระเป๋าใบที่ 1 จำนวน 1,000 บาทต่อคนนั้น รวม 10,000 ล้านบาทนั้น ล่าสุดเงินก้อนนี้ใช้เต็มวงเงินเรียบร้อยแล้ว ยังเหลือวงเงินในกระเป๋าที่ 2 อยู่อีก 9,000 ล้าน บาทที่สามารถนำมาใช้ได้ ดังนั้น เฟส 3 จะไม่มีการแจกเงิน 1,000 บาทในกระเป๋าใบที่ 1 แต่ยังคงให้สิทธิ์ในกระเป๋าใบที่ 2 ได้เงินคืน (cash back) กรณีใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 2 วงเงินไม่เกิน 30,000 บาท รับเงินคืน 15 % หรือไม่เกิน 4,500 บาท ส่วนที่เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ได้เงินคืน 20% หรือ 4,000 บาท รวมกันไม่เกิน 8,500 บาทต่อคน เพื่อไม่ให้วงเงินเกิน 9,000 ล้านบาท
“กระทรวงการคลังจะบริหารเงินที่ได้รับมอบหมายตามมติ ครม. เพื่อไม่ให้เกินวงเงิน 19,000 ล้านบาท เฟส 3 จะเน้นไปที่การขยายมาตการเพิ่มเติมจากของเดิม โดยประชาชนที่ลงทะเบียนเฟสแรก จนถึงเฟส 3 สามารถขยายขอบเขตการใช้ได้ทุกจังหวัด จากเดิมกำหนดใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดที่อยู่ตามบัตรประชาชน และขยายการใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 2 สามารถซื้อแพ็คเกจทัวร์ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรงที่พักและอาหารได้อีกด้วย” นายอุตตม กล่าวแบะว่า
ขณะนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังอยู่ระหว่างการประเมินมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ระยะที่ 1 ว่า มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ ยอมรับว่าเฟส 1 และ 2 ประชาชนจะใช้เงิน 1,000 บาท จากกระเป๋าใบแรกหมด ส่วนกระเป๋าใบที่ 2 ใช้เงินจ่ายเงินน้อยมาก ดังนั้น สศค.จึงเสนอให้ขยาย หรือปลดล็อก ข้อห้ามบางเรื่อง เพื่อช่วยสนับสนุนให้ประชาชนใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 2 ในการท่องเที่ยวและใช้จ่ายในช่วงปีใหม่และตรุษจีนมากขึ้น ส่วนแนวคิดที่จะมี “ชิงโชค” ตอนนี้ไม่ได้เสนอให้ ครม.พิจารณา และยังไม่มีข้อสรุป โดยในวันที่ 13 พ.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะแถลงเรื่องดังกล่าว อย่างละเอียดอีกครั้ง.
