คลัง-อุตฯ อสังหาฯ จ่อจัดขายบ้าน 3.5 หมื่นยูนิต
คลังผนึกอุตฯอสังหาริมทรัพย์ จัดแคมเปญขายที่พักอาศัยทุกกลุ่ม “บ้านเดียว-บ้านแฝด-ทาวน์เฮ้าส์-คอนโดฯ” ตั้งเป้าจัดใหญ่ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ หวังขายครบ 3.5 หมื่นยูนิต ดันยอดภาพรวมทั้งปี เฉียด 2 แสนยูนิต เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งทีเดียว เผย “อุตตม” จี้ทั้งมหาดไทยและแบงก์ชาติ หวังปูทางหนุนอสังหาฯ ดันอุตสาหกรรมต่อเนื่องโตตามยันถึงปีหน้า
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช. รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมกับ 3 สมาคม “เสาหลัก” ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และตัวแทนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันที่จะร่วมจัดอีเว้นท์กระตุ้นยอดขายอสังหาริมทรัพย์ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมีเนียม โดยมีเป้าหมายจะสร้างยอดขาย 35,000 ยูนิตในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ยังอยู่ในภาวการณ์ชะลอตัว เนื่องจากทุกฝ่ายรอประกาศจากกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการปรับลดค่าธรรมเนียนการโอนและการจดจำนองที่จะเหลืออัตราเดียว 0.01% โดยขณะนี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง อยู่ระหว่างติดตามและประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย กระทั่ง ทราบว่าเรื่องอยู่ที่สำนักงานกฤษฎีกา คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในเร็วๆ นี้
“หากมหาดไทยออกประกาศทั้ง 2 ฉบับเร็วเท่าใด เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ที่จะต้องเกิดไปพร้อมกับการจดจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ ตัวแทน 3 สมาคมจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดเงื่อนไขคุณสมบัติของผู้กู้และเงื่อนการกู้เงินจากสถาบันการเงิน รวมถึงยอดเต็มของการสัดส่วนการกู้ให้ได้ครบ 100% ในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลักแรก หรือบ้านหลังต่อๆ ไป ซึ่งผมจะสรุปและนำประเด็นเหล่านี้ ไปนำเรียนสื่อ รมว.คลัง โดยเร็วสุด”
ผช.รมต.คลัง ยังระบุว่า นายอุตตม ได้หารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาโดยตลอด เพื่อขอให้ผ่อนปรนเงื่อนไขในทุกมิติของการปล่อยสินเชื่อเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้เติบโตในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังปี 2563 โดยคาดว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นพิเศษ ทั้งในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ออกนโยบายด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและคงที่ เพียง 2.5% ในช่วง 3 ปีแรก และ 4.625% ในปีที่ 4-5 รวมถึงการจัดโปรโมชั่นพิเศษจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงินในภาคเอกชน โดยจะเน้นไปยังกลุ่มที่พักอาศัยราคา 1-3 ล้านบาท เช่นเดียวกับที่ ธอส.ดำเนินการไปก่อนหน้านี้
“รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงการคลัง ภายใต้การนำของ นายอุตตม สาวนายน พยายามจะช่วยเหลือในทุกกลุ่มภาคอุตสาหกรรม เพียงแต่การเริ่มต้นกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไปก่อนนั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ เกี่ยวพันกับอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสินค้าเครื่องประดับและตกแต่ง, กลุ่มแรงงานภาคอสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ ทั้งนี้ เมื่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เข้มแข็ง เชื่อว่ารัฐบาลจะออกมาตรการใหม่ๆ มาเพื่อกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างแน่นอน”
ด้าน ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า จากสถิติการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ช่วงไตรมาส 2 และ 3 ที่ผ่านมา พบว่า ในส่วนของคอนโดมีเนียมหดตัวไปราว 20% ขณะที่กลุ่มบ้านเดียว/ทาวเฮ้าส์มีการชะลอเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ หากไม่มีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐแล้ว เชื่อว่าน่าจะอยู่ในภาวะทรงตัวถึงถดถอยอย่างแน่นอน
“การที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์นั้น ถือว่าส่งผลบวกในเชิงจิตวิทยาได้เป็นอย่างดี ส่วนการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์จริงนั้น เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2563 เนื่องจากช่วงหลังจากนี้ จะเป็นฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยว และความสนุกสนาน ผู้คนส่วนใหญ่สนใจกับงานรื่นเริง การท่องเที่ยว และจับจายซื้อหาของขวัญ กันมากกว่าจะมาซื้อขายบ้าน” นายกสมาคมอาคารชุดไทย ย้ำ
ส่วนคาดการณ์ภาพรวมยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ เชื่อว่าหากนับรวมการจัดแคมเปญในช่วงปลายปี 35,000 ยูนิต ก็น่าจะทำให้ยอดขายรวมเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับปีก่อนที่ระดับเกือบ 2 แสนยูนิต ซึ่งก็น่าจะช่วยกระตุ้นภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ได้ดีในระดับที่พอใจทีเดียว.