กุลิศ เร่งสาง 6 ภารกิจด่วน ด้านพลังงาน
ปลัดกระทรวงพลังงาน เผย 6 ภารกิจเร่งด่วน และ เป้าหมายการดำเนินงานในระยะ 6 เดือน ของกระทรวงพลังงาน พร้อมทบทวนแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว รวมทั้งจัดทำ Road Map การพัฒนาน้ำมัน B10 และ B20 ในอนาคต
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวในที่ประชุมถึงวิสัยทัศน์ของกระทรวงพลังงานที่สำคัญ 3 ประการ ต่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางมามอบนโยบายแก่กระทรวงพลังงาน คือ 1.พลังงานเพื่อทุกคน (Energy For All) 2.บริหารจัดการพลังงานด้วยเทคโนโลยี Big Data และAI (Artificial Intelligence) และ 3.เป็นผู้นำด้านพลังงานอาเซียน ซึ่งในการเดินไปสู่วิสัยทัศน์ดังกล่าวจะต้องดำเนินการในด้านต่างๆ ทั้งการสร้างสมดุลด้านเชื้อเพลิง การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นศูนย์กลางไฟฟ้าอาเซียน การสร้างรายได้ให้ชุมชน การช่วยเหลือประชาชนรอบโรงไฟฟ้า การจัดหาพลังงานอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน การดูแลค่าครองชีพด้านพลังงาน รวมถึงการมีนวัตกรรมรองรับพลังงานรูปแบบใหม่
สำหรับ ภารกิจเร่งด่วนเฉพาะหน้าด้านพลังงานมี 6 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การกำหนดรูปแบบการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้าน LPG และ NGV การระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งติดตั้งในกิจการปิโตรเลียม การชี้แจงต่อผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้า การกำหนด Road Map ของน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มดีเซล B10 และ B20 การจัดประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน (AMEM) 2 – 6 กันยายน 2562 และการหาข้อยุติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) 1.5 ล้านตันของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานในระยะ 6 เดือน ได้วางอยู่บนหลักการสำคัญคือ ด้านการลดความเหลื่อมล้ำ โดยจะดำเนินการดูแลค่าครองชีพด้านพลังงานทั้งราคา LPG และ NGV , จัดตั้งสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง, จัดทำโมเดลของโรงไฟฟ้าชุมชน และแนวทางช่วยเหลือประชาชนรอบโรงไฟฟ้า ด้านการเพิ่มขีดความสามารถ จะปรับสมดุลเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า, จะบรรลุข้อตกลงขยายการส่งไฟฟ้าจาก สปป.ลาวผ่านไทยไปมาเลเซียเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ในการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพเดือนกันยายนนี้
และทบทวนแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว ทั้งแผนไฟฟ้า(PDP) แผนพลังงานทดแทน (AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) แผนด้านก๊าซ (Gas Plan) และแผนด้านน้ำมัน (Oil Plan) ด้านการสร้างความยั่งยืน จะจัดทำ Road Map การพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทดีเซล B10 / B20 และจะจัดสรรงบและเริ่มดำเนินโครงการภายใต้การส่งเสริมของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานปี 2563 วงเงิน 12,000 ล้านบาท