ไทยออยล์ คาด น้ำมันดิบ WTI แตะ 52 USD
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 52 – 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 58 – 63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ สถานการณ์ราคาน้ำมันและแนวโน้มประจำสัปดาห์ ระหว่าง วันที่ 14 – 18 ต.ค. 62 โดยระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ในสัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 52 – 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 58 – 63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
เนื่องจากราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากสัญญาณที่ดีของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเบื้องต้นได้ในการเจรจาการค้าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางและประเทศผู้ผลิตต่างๆ อาจส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตและปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบคาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ไปแตะระดับเดิมที่กำลังการผลิต 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวันก่อนเหตุการณ์โรงแปรรูปน้ำมันดิบถูกโจมตี นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดปรับตัวสูงขึ้นตามกำลังการผลิตที่สูงขึ้น ในขณะที่กำลังการกลั่นอาจปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงปิดซ่อมบำรุงประจำปี
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ โดยตลาดน้ำมันคาดยังคงได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ หลังสหรัฐฯ และจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าบางส่วนในการเจรจา ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 10-11 ต.ค. 62 ที่ผ่านมาได้ โดยจีนจะเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าทางการเกษตรของสหรัฐฯ ในขณะที่สหรัฐฯ จะเลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจากกำหนดการเดิมที่ 15 ต.ค. 62 ออกไป โดยเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น จะส่งผลให้ความต้องกรใช้น้ำมันโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม
ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตต่างๆ ล่าสุด เหตุการณ์ประท้วงในเอกวาดอร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้เอกวาดอร์ประกาศยกเลิกการส่งออกน้ำมันดิบแบบสุดวิสัย ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบในประเทศปรับลดลงราว 0.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือเทียบเท่ากับร้อยละ 40 ของกำลังการผลิตเดิม โดยเหตุการณ์ประท้วงในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการที่รัฐบาลยกเลิกการลดราคาน้ำมันให้กับประชาชนเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนต่อเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เหตุการณ์ประท้วงในอิรักที่บานปลาย อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรัก ซึ่งปกติอยู่ที่ 3.4 ล้านบาร์เรลต่อวันได้
ด้านปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังคาดว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ต.ค. นี้ หลังกำลังการผลิตของประเทศในเดือน ก.ย. 62 อยู่ที่ระดับ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากผลกระทบของการโจมตีโรงงานแปรรูปน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งส่งผลให้ซาอุดิอาระเบียจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลงราว 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ส่วนปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดปรับเพิ่ม หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดกำลังการกลั่นลงต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น ประกอบกับกำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ คาดทรงตัวอยู่ในระดับสูง หลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีกราว 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สำหรับเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคจีน, ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, จีดีพี Q3/62 จีน, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐฯ
ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่ม 1.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 54.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่ม 2.14 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 60.51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 60.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากแรงหนุนของเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังเรือขนส่งน้ำมันสัญชาติอิหร่านถูกโจมตีบริเวณทะเลแดง ในขณะที่กองทัพตุรกีบุกโจมตีซีเรียเหนือ
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้แรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวความต้องการใช้น้ำมันโลก หลังสถาบันพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันดิบในปี 2562 ลงเหลือเพียง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นราว 2.9 ล้านบาร์เรล ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันดิของสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 12.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบ ปิดตลาด เมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.62) ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน พ.ย. ลดลง 78 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 52.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 61 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 58.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล