สื่อจีนเรียกร้องปชช.ต้านสงครามการค้า
สื่อภาครัฐของจีนย้ำว่า จีนจะเอาตัวรอดจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และเรียกร้องให้มีการณรงค์ที่ดุเดือดขึ้นเพื่อต่อต้านความ ‘โลภ’ ของสหรัฐ
ในบทความแสดงความเห็น สื่อของจีนที่ถูกรัฐบาลควบคุม ได้ใช้ภาษาที่ดุเดือดและแสดงความเป็นชาตินิยมเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าเศรษฐกิจของจีนสามารถรับมือกับภาษีที่เพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ค.จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯด้วย
โดยหนึ่งในบทบรรณาธิการจากทั้งสำนักข่าวซินหัวและพีเพิล เดลี่ ซึ่งเป็นสื่อของพรรคคอมมิวนิสต์ระบุว่า ขณะที่สหรัฐฯต่อสู้เพื่อ “ความโลภและความหยิ่งทะนง” จีนต่อสู้เพื่อปกป้อง “สิทธิตามกฎหมายและผลประโยชน์”
“ สงครามการค้าในสหรัฐฯเป็นการสร้างจากคนคนเดียว และทีมบริหารของเขาซึ่งมีบทบาทกับประชากรทั้งหมดของประเทศ ขณะที่ทั้งประเทศและประชาชนชาวจีนทั้งหมดกำลังถูกขู่ขวัญ สำหรับเรา นี่เป็น ‘สงครามประชาชน’ อย่างแท้จริง” บทบรรณาธิการระบุ
โดยแถลงการณ์ที่อ่านในช่วงข่าว 19.00 น. ของสถานีโทรทัศน์ CCTV โดยกังฮุย ระบุว่า จีนจะ “ สู้เพื่อโลกใหม่” โดยเสริมว่าในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน “ ไม่มีอะไรที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน”
“ อย่างที่ประธานาธิบดีสีกล่าวคือ เศรษฐกิจจีนเปรียบเหมือนทะเล ไม่ใช่บ่อน้ำเล็กๆ พายุฝนอาจทำลายบ่อน้ำขนาดเล็กได้ แต่ไม่สามารถทำอันตรายทะเล หลังจากมีพายุผ่านไปหลายลูก ทะเลยังคงเหมือนเดิม” กังกล่าว
จนถึงวันที่ 8 พ.ค.ในสัปดาห์ที่แล้ว สื่อจีนแทบจะไม่รายงานถึงความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งในด้านการค้าเลย แต่ทันทีทันใดทั้งทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์สื่อออนไลน์ก็มีแต่ข่าวดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนเต็มไปหมด และความยืดหยุ่น ความสามารถในการฟื้นตัวในการเผชิญกับแรงต้านปะทะทั่วโลก
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่ตีพิมพ์บทความหน้าแรกที่มีชื่อว่า “ เศรษฐกิจจีนเต็มไปด้วยความยืดหยุ่น” ชี้ให้เห็นถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และสำนักข่าวซินหัวก็รายงานเรื่องเดียวกัน
CCTV รายงานข่าวยาว 5 นาทีที่สอดคล้องกับป้ายแบนเนอร์คำขวัญ มีภาพวีดีโอของรถไฟความเร็วสูงที่เคลื่อนที่สลับไปมา ไลน์การผลิตโรงงานอัตโนมัติ และท่าเรือที่มีตู้คอนเทนเนอร์แน่นขนัด
แต่ยังมีสัญญาณของสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา Taoran Notes ซึ่งเป็นบัญชีโซเชียลมีเดียของรัฐ ภายใต้หนังสือพิมพ์ Economic Daily มีการประกาศเป็นนัยๆว่า การทำข้อตกลง
“ ไม่น่าพอใจ จีนจะไม่เทงบอีก ไม่ว่าคุณจะร้องขออย่างไร”
ทั้งนี้ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ยิ่งมีมากกว่าเดิม “ เราไม่ได้รู้สึกว่าไม่เคยเจอกับสถานการณ์ของการต่อสู้ขณะเจรจา”.