โรงงานจีนระเบิด 2 ครั้งเดือนมี.ค
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ทางการจีนระบุว่า เกิดเหตุโรงงานระเบิดในมณฑลเจียงซู ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย นับเป็นเหตุระเบิดร้ายแรงครั้งที่ 2 ในเดือนมี.ค. ในช่วงเวลาที่จีนเริ่มทำการตรวจสอบความปลอดภัยในอุตสาหกรรมทั่วประเทศ
โดยเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.เกิดจากที่เก็บเศษโลหะระเบิดขึ้นที่สนามนอกอาคารโรงงานหล่อโลหะในเมืองคุนซาน ทำให้โรงงานเกิดไฟไหม้ รัฐบาลท้องถิ่นระบุในบัญชีผู้ใช้งานบนเว่ยป๋อ
“ กำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิด ” ทางการระบุในเหตุระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 5 ราย โดยหนึ่งในนั้นมีอาการบาดเจ็บสาหัส
Waffer Technology Corp Ltd ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวันที่ผลิตสินค้าด้วยการหล่อข้อต่ออัลลอยแมกนีเซียมและอะลูมิเนียมอัลลอย โดยทางบริษัทยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์
บริษัทถูกปรับในเดือนพ.ค.ปีที่แล้วโดยสำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมเมืองคุนซาน เนื่องจากละเมิดกฎหมายก่อให้เกิดน้ำเสีย อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ของรัฐ ปักกิ่งนิวส์
เมืองคุนซาน ตั้งอยู่ห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ไปทางตะวะันตกประมาณ 70 ก.ม. และเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีและผู้ผลิตกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทไต้หวันจำนวนมาก
โดยเหตุระเบิดโรงงานในวันที่ 31 มี.ค.เกิดขึ้นหลังจากเหตุระเบิดในวันที่ 21 มี.ค.ในนิคมอุตสาหกรรมเคมีในเมืองเหยียนเฉิง ซึ่งอยู่ในมณฑลเจียงซูเช่นกัน แต่เหตุการณ์นั้นคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 78 ราย และทำให้มีการเอาใจใส่เรื่องความปลอดภัยในบริษัทเคมีขนาดเล็กมากขึ้น
เมื่อสัปดาหฺ์ที่แล้ว รัฐบาลจีนระบุว่า จะเริ่มทำการตรวจสอบทั่วประเทศเป็นเวลานาน 1 เดือนในโรงงานที่มีสารเคมีอันตราย เหมืองแร่ คมนาคมขนส่ง และความปลอดภัยด้านเพลิงไหม้ โดยเสริมว่าทางการจำเป็นต้องถอดบทเรียนจากหายนะในโรงงานเมืองเหยียนเฉิง
ประเทศจีนมีประวัติด้านอุบัติเหตุร้ายแรงเกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบอยู่บ่อยครั้งเพื่อตั้งเป้ากวาดล้างแบบขุดรากถอนโคนกับบริษัทที่มีการละเมิดกฎหมาย และลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเอื้อประโยชน์แก่เจ้าของธุรกิจและประพฤติมิชอบในหน้าที่
ทั้งนี้ จีนลดการนำเข้าเศษโลหะ เนื่องจากมีการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมต่อต้าน ‘ ขยะจากต่างประเทศ ’ โดยมีความเข้มงวดกับแหล่งที่มาของขยะ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดการนำเข้าขยะภายในสิ้นปี 63.