กิจกรรมโรงงานจีนโตครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
กิจกรรมโรงงานในจีนเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนมี.ค. จากผลสำรวจทางการที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ชี้ให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอาจเริ่มมีเสถียรภาพ
การพัฒนาบรรยากาศการทำธุรกิจที่มีความยั่งยืนสะท้อนให้เห็นว่าการผลิตกำลังเริ่มฟื้นตัว ผ่อนคลายความกลัวที่ว่าจีนอาจมีสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหนักขึ้น
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของทางการเติบโต 50.5 คะแนนในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 49.2 ในเดือนก.พ. (ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี ) ทำให้เป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อ้างอิงจากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ในวันที่ 31 มี.ค.โดยตัวเลข 50 คะแนนถือเป็นเกณฑ์วัดที่แยกระหว่างการเติบโตและการหดตัวจากพื้นฐานข้อมูลประจำเดือน โดยโพลสำรวจนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขจะอยู่ที่ 49.5 คะแนน
ผลผลิตโรงงานเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 6 เดือนในเดือนมี.ค. สวนทางกลับมาจากที่เคยหดตัวในเดือนก่อน โดยโตขึ้นจากที่เคยหดตัวอยู่ที่ 49.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.61 โดยคำสั่งซื้อใหม่เติบโตขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าเดิม
แต่คำสั่งซื้อในการส่งออกยังคงหดตัวเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ชี้ให้เห็นดีมานด์ภายนอกที่ยังคงซบเซา และอาจจำเป็นต้องมีนโยบายรองรับมากกว่านี้ หากมีความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้น โดยประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่ค้าของจีนอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไต้หวันล้วนแต่เห็นสัญญาณของดีมานด์ที่ลดลง ทั้งในจีนและที่อื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ในสัปดาห์ที่แล้ว คณะผู้แทนการค้าของสหรัฐฯอยู่ในกรุงปักกิ่งในการเจรจาการค้ารอบล่าสุดระหว่างทั้งสองฝ่าย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนออกไปจากกำหนดเดิมคือ 1 มี.ค. ในทางกลับกัน รองประธานาธิบดีหลิวเหอของจีนจะมุ่งหน้าไปวอชิงตันในวันที่ 3 เม.ย.เพื่อพูดคุยกันมากขึ้น
รัฐบาลจีนตระหนักว่า เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น มีแนวนโยบายหลายปีที่จะควบคุมความเสี่ยงหนี้ และสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ส่งผลกระทบกับภาคส่งออกของจีนมากขึ้นและเป็นภัยคุกคามกับจำนวนงานมากขึ้น
เพื่อเป็นการขานรับกับเรื่องนี้ จีนประกาศมาตรการใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างถนน รถไฟและท่าเรือ พร้อมกับการลดภาษีเกือบ 2 ล้านล้านหยวน หรือราว 9.56 ล้านล้านบาทเพื่อผ่อนคลายแรงกดดันจากความตึงเครียดที่มีกับงบดุล
ขณะที่การเติบโตในอุตสาหกรรมบริการ ซึ่งมีมูลค่าคิดเป็นมากกว่าครึ่งของเศรษฐกิจ ฟื้นตัวขึ้นในเดือนมี.ค. เพราะมีคำสั่งซื้อเข้ามารวดเร็วกว่าเดิม ดัชนี PMI ที่ไม่ใช่ภาคการผลิตโตขึ้นเป็น 54.8 จากเดิม 54.3
กิจกรรมการก่อสร้างกลับมาคึกคักขึ้นในเดือนมี.ค.เมื่อสภาพอากาศอุ่นขึ้น โดยตัวเลขที่อ่านได้ของกิจกรรมก่อสร้างอยู่ที่ 61.7 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิม 59.2 ในเดือนก.พ.