SCN ผนึก พันธมิตร ลุย โซลาร์รูฟท็อป 110 MV
SCN จับมือ 2 พันธมิตร ตั้งบริษัท ลุยธุรกิจพลังงานสะอาด เผย โซลาร์รูฟท็อป 4 MV มูลค่า 100 ล้านบาท COD ไตรมาสแรก ปี 63 ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น110 MV ปี 65 มูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท
นายฤทธี กิจพิพิธ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับ บริษัท ไทยแอดวานซ์โซลาร์ จำกัด หรือ TAS และบริษัท พร้อมพาวเวอร์ จำกัด หรือ PP ผู้มีความชำนาญด้านโซลาร์รูฟท็อป เพื่อจัดตั้งบริษัท สแกน แอดวานซ์พาวเวอร์ จำกัด โดย SCN ถือหุ้น 51%, TAS 24% และ PP 25% ในการพัฒนาและผลิตพลังงานสะอาดเพื่อเข้าร่วมลงทุนในสัญญาซื้อขายไฟภาคเอกชน (Private PPA) และสัญญาเช่าโครงการโซลาร์รูฟท็อป อย่างไม่จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทมองเห็นถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องบวกกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2561-2580 หรือ PDP 2018 ที่คาดการว่าการใช้ไฟฟ้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.6% ในช่วงปี 2562-2563 และ 3.2% ในช่วงปี 2564 อีกทั้งรัฐบาลได้มีการสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 9% จากเดิม 5% จากแผน PDP 2015 ซึ่งจะหนุนความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศให้สูงขึ้นไปด้วย
ในขณะที่อัตราค่าไฟปรับเพิ่มขึ้นทุกปีต้นทุนค่าแผงโซลาร์กลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้เล็งเห็นโอกาสที่จะลุกเข้าสู่ธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันบริษัทได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการหลายรายที่มีความต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแล้วเป็นจำนวนมากและปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาติดตั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อปขนาดกำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์แล้วมูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถจำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในช่วงไตรมาส 1/2563
นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อขาย คาดว่าปลายปี 2562 นี้จะมียอดการติดตั้งถึง 10 เมกะวัตต์ และในปี 2563 ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 30 เมกะวัตต์ จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโซลาร์รูฟ
ท็อปเพิ่มขึ้น 10% จากเดิมที่ไม่มีสัดส่วนรายได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ดีบริษัทตั้งเป้าปี 2565 จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าและดำเนินการเชิงพาณิชย์ 110 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นผู้ประกอบการที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงในช่วงกลางวัน อาทิ ภาคธุรกิจโรงแรม, โรงงานอุตสาหกรรม, โรงพยาบาลและโรงเรียนเป็นต้น