น้ำมันร่วงหลังตลาดกังวลศก.จีนชะลอตัว
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ราคาน้ำมันดิ่งลงมาอยู่ประมาณ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังจากข้อมูลชี้ให้เห็นถึงการนำเข้าและส่งออกที่อ่อนแรงลงของจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ก่อให้เกิดความกังวลว่าดีมานด์น้ำมันจะชะลอตัวตามไปด้วย
โดยตัวเลขส่งออกของจีนลดฮวบที่สุดในรอบ 2 ปีในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่การนำเข้าหดตัวลง อ้างอิงจากตัวเลขของทางการจีน ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจอาจมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในจีน (ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก)
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นมาตรวัดสากล ร่วงมาอยู่ที่ 59.96 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมาอยู่ที่ 51.11 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
“ ทั้งตัวเลขนำเข้าและส่งออกของจีนที่ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ ทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัวตาม ” Norbert Ruecker หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาคและโภคภัณฑ์ประจำธนาคารสวิส Julius Baer กล่าว
“ ราคาน้ำมันลดลงจากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงในจีน ” Stephen Innes จากโบรกเกอร์ Oanda ระบุในรายงาน “ ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าสงครามการค้าส่งผลกระทบแง่ลบกับจีน และอาจส่งผลกับเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย”
แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ แต่มีสัญญาณเล็กน้อยที่บ่งชี้ว่าดีมานด์น้ำมันของจีนยังไม่อ่อนแรงลง โดยตัวเลขการนำเข้าน้ำมันของจีนในเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการคำนวณข้อมูลศุลกากรของสื่อรอยเตอร์
โดยราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันจากกลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันโอเปก และประเทศที่ไม่ใช่โอเปกอย่างรัสเซีย
เมื่อเดือนธ.ค. 2561 กลุ่มประเทศโอเปกตกลงกันที่จะลดเพดานการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ซัพพลายน้ำมันล้นตลาดและหนุนราคาให้ขยับขึ้น
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ดีดตัวขึ้นมาจากที่เคยลดลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในเดือนธ.ค.ปีก่อน ทำให้โอเปกมีท่าทีเชื่อมั่นมากขึ้นว่าราคาน้ำมันจะได้แรงหนุนต่อจากซัพพลายที่ลดลงในเดือนม.ค. เนื่องจากประเทศผู้ผลิตปฏิบัติตามข้อตกลงของโอเปกอย่างเคร่งครัด
คาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.กระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียระบุเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่า ตลาดน้ำมันมาถูกทางแล้ว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการประชุมโอเปกนัดพิเศษก่อนวาระตามปกติตามแผนเดิมคือในเดือนเม.ย.นี้.