จีน – สหรัฐฯเริ่มคุยการค้ารอบใหม่
รมว.กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ว่า จีนและสหรัฐฯเริ่มพูดคุยการค้าและประเด็นเศรษฐกิจอื่นในระดับสูงอีกครั้ง หลังจากมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย.
ทีมเจรจาจากทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ เกาเฟิง โฆษกกระทรวงกล่าวในการแถลงข่าว
นี่เป็นสัญญาณด้านบวกสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และที่สำคัญกว่าคือช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้บริษัทในจีนและในสหรัฐฯ ซูร่งจิว รองผอ.สังคมจีนเพื่อการศึกษาของ WTO ระบุ
“ หลายบริษัทต้องแบกรับภาระทางการเงินที่เกิดจากภาษี ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ไม่เพียงแต่ด้านการค้าเท่านั้น แต่ยังกระทบกับห่วงโซ่มูลค่าโลกและเสถียรภาพทางการเงิน” เขากล่าว
โดยประธานาธิบดีทั้งสองตกลงกันทางโทรศัพท์ว่าจะพบกันในระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G-20 ในอาร์เจนตินา ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำทางธุรกิจมองว่าเป็นการประชุมทวิภาคีที่สำคัญที่สุดในระหว่างการประชุม G-20 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. – 1 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
Robert Aspell ประธานฝ่ายเอเชีย – แปซิฟิกของ Cargill อาณาจักรการเกษตรของสหรัฐฯ ระบุว่า หนทางดีที่สุดในการแก้ปัญหาประเด็นการค้าคือการพูดคุยซึ่งกันและกัน
“ ด้วยส่วนเติมเต็มที่แข็งแกร่ง สามารถเป็นผลประโยชน์ให้กับทั้งสองประเทศเพื่อฟื้นฟูความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิดขึ้นเพื่อสร้างประโยชน์กับผู้บริโภคและธุรกิจ” เขากล่าว
ในการพัฒนาอีกด้าน เการะบุว่า การเจรจาความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค (RCEP) มีความก้าวหน้าขึ้นในปีนี้ และอาจมีบทสรุปในปีหน้า โดยจะเป็นความตกลงที่ “ ทันสมัย ครอบคลุม มีคุณภาพสูง และเพื่อกันและกัน”
คาดการณ์ว่า RCEP ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรีระหว่าง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และ 6 ประเทศหุ้นส่วน FTA สำคัญคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย จะเป็นหนึ่งในความตกลงการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็น 45% ของจำนวนประชากรโลก 40% ของการค้าทั่วโลก และ 1 ใน 3 ของ GDP โลก
โดยเการะบุว่า มีการเจรจา RCEP ไปแล้วถึง 24 รอบ ตั้งแต่สิ้นปี 2555 เป็นต้นมา
ขณะที่หลายพื้นที่ของโลกยังประสบกับการกีดกันทางการค้าและการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียว การเจรจาเพื่อให้ได้บทสรุปของ RCEP จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงข้อผูกพันของหลายประเทศที่มีต่อการค้าพหุภาคี หลี่กัง รองประธานสถาบันการค้านานาชาติและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระบุ
“ ถึงเวลาที่จะย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือของจีนกับสหรัฐฯ ในประเด็นเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน” หลี่กล่าว
“ นี่จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองชาติและควรเป็นการเปิดกว้างเพื่อความกลมเกลียวให้มากขึ้น”
Matt Tsien ประธานบริษัท GM จีน ระบุว่า การเปิดกว้างทางการค้าและโลกาภิวัตน์เป็นเทรนด์ที่หยุดไม่ได้ อุตสาหกรรมจำนวนมาก รวมทั้งภาคส่วนรถยนต์ ต้องพึ่งพาการบูรณาการทั่วโลกเพื่อให้ระบบโลกาภิวัตน์ให้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน.