สินค้าจีนเบียดแซงสินค้าอเมริกัน
ถึงปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่มีสงครามการค้า แต่สินค้าแบรนด์อเมริกันในจีนก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามมาก่อนหน้านี้แล้วคือ คู่แข่งแบรนด์จีนที่มีสินค้านวัตกรรมและการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
สินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์อเมริกันอย่างแอปเปิล สตาร์บัคส์ และผ้าอ้อมสำเร็จรูปแพมเฟอร์สจากพรอกเตอร์ & แกมเบิลกำลังประสบกับความท้าทายในประเทศจีน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีศักยภาพคุกคามบริษัทสหรัฐฯที่มีการผลิตในจีนมูลค่านับแสนล้านดอลลาร์
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ Bain and Kantar แบรนด์จีนมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนสามารถครองเกือบ 3 ใน 4 ของตลาดสินค้าบริโภคที่มีมูลค่าถึง 639,000 ล้านหยวน มีสินค้าครอบคลุมตั้งแต่เครื่องดื่มไปจนถึงแชมพู เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับที่เคยมีส่วนแบ่งในตลาด 2 ใน 3 เมื่อปี 2556
โดยข้อมูลที่มีการแชร์กับรอยเตอร์ชี้ว่า สินค้าแบรนด์อเมริกันอย่างแพมเพอร์ส ยาสีฟันคอลเกต และนมผงทารกมี้ดจอห์นสันมีส่วนแบ่งในตลาดลดลงประมาณ 10% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลนี้จัดทำขึ้นจากการสำรวจครัวเรือนในเมืองประมาณ 40,000 ครัวเรือน
ขณะเดียวกัน แบรนด์จีนมากความสามารถอย่าง SeeYoung มีแชมพูสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนที่กำลังได้รับความนิยมมาก และ Pechoin แบรนด์ผู้ผลิตสินค้าดูแลผิวที่ใช้ส่วนผสมในประเทศมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
“การแข่งขันในจีนสูงมากและส่งผลต่อบริษัทต่างชาติในจีน” Bruno Lannes หุ้นส่วนของ Bain & Co ที่มีสำนักงานในเซี่ยงไฮ้ ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานกล่าว
แอปเปิล บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตไอโฟนเองก็มีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนลดลงประมาณ 10% ตั้งแต่ปี 2555 อ้างอิงข้อมูลจากการวิเคราะห์ของ Canalys และถูกแบรนด์จีนแย่งชิงตลาดทั้งออปโป วีโว่ และหัวเหว่ย
ขณะที่สตาร์บัคส์ ซึ่งบูมในจีนมานานด้วยการสร้างวัฒนธรรมการดื่มกาแฟให้มาแทนที่การดื่มชา ระบุว่าการเติบโตชะลอตัวลงในไตรมาส 2 ของปี 2561 นี้ บริษัทพยายามจะเน้นที่บริการรับส่งกาแฟด้วย แต่ต้องเจอกับคู่แข่งแบรนด์จีนเล็กๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
แต่บางบริษัทยังเกาะติดเทรนด์ได้ โดยบิสกิตแบรนด์โอรีโอยังคงแข็งแกร่งในตลาด ขณะที่โคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ฟื้นตัวขึ้นในปีที่แล้วหลังจากเสียส่วนแบ่งในตลาดให้กับน้ำผลไม้และเครื่องดื่มสุขภาพในช่วงปี 2555 – 2559
โดยภาพรวมในปี 2560 แบรนด์ในประเทศสามารถครองตลาดได้มากกว่าคู่แข่งจากต่างประเทศถึง 21 ประเภทสินค้าบริโภคทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แชมพู และนมผงสูตรทารก อ้างอิงจากรายงานของ Bain โดยแบรนด์จีนเติบโตถึง 7.7% ขณะที่แบรนด์ต่างประเทศโต 0.4%
เอียน จู หุ้นส่วนของ Nio Capital สตาร์ทอัพผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีน กล่าวว่า รถยนต์อัจฉริยะ รถไฟฟ้าและรถขับอัตโนมัติช่วยหนุน
การเติบโตของยานยนต์แบรนด์จีน เพราะมีความบันเทิงและพื้นที่ในการทำงานมากกว่าแค่ยานพาหนะปกติ
“คุณต้องรู้รสนิยมของคนจีนและสภาพแวดล้อมในจีนเป็นอย่างดี บริษัทต่างชาติจะถูกท้าทายมหาศาลในเรื่องนี้” เขากล่าว
การผลักดันนโยบาย Made in China 2025 ซึ่งรวมถึงพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างพลังงานใหม่และรถยนต์อัจฉริยะ ยิ่งมีส่วนส่งเสริมแบรนด์ของจีน
ขณะที่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น เครื่องมือแพทย์ เซมิคอนดักเตอร์ และเวชภัณฑ์ รัฐบาลจีนกำลังสนับสนุนให้เกิดแบรนด์ของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ.