จีนลงทุนในสหรัฐฯลดฮวบ 92%
การลงทุนของจีนในสหรัฐฯ ลดดิ่งลงอย่างฮวบฮาบในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 นี้ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมหาอำนาจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นเวลานานหลายปีที่บริษัทของจีนอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลเข้าไปในสหรัฐฯ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยิ่งลึกซึ้งขึ้นอีกในด้านการค้า
แต่จำนวนเงินลงทุนจากจีนโดยรวมกลับมีเพียง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 59,400 ล้านบาทเท่านั้นในระหว่างเดือนม.ค.- พ.ค.ของปีนี้ ลดลงถึง 92% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 และถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี อ้างอิงจากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.โดย Rhodium Group ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่ติดตามการลงทุนของจีนในต่างประเทศ
การลดลงอย่างฮวบฮาบของการลงทุนเกิดขึ้นในช่วงเวลาการต่อสู้ระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งที่ความตึงเตรียดทางการค้าไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการลงทุนของสหรัฐฯมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นกับการเข้ามาลงทุนของจีน
“ ยิ่งรัฐบาลทรัมป์ปะทะกับจีนด้านการค้ามากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดความกังขามากเท่านั้นในความคิดของบริษัทเหล่านี้ เกี่ยวกับสถานะของบริษัททีนี่ ” Thilo Henemann ผู้อำนวยการของ Rhodium Group และหนึ่งในผู้เขียนรายงานกล่าว
คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ หรือ CFIUS เป็นหน่วยงานระหว่างประเทศที่มีกระทรวงการคลังสหรัฐฯเป็นประธาน มีหน้าที่ตรวจสอบข้อตกลงไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้าควบคุมธุรกิจของสหรัฐฯได้ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ
โดยคณะกรรมการชุดนี้เข้มงวดกวดขันยิ่งขึ้นภายใต้การปกครองของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า CFIUS ตรวจสอบดีลธุรกิจเป็นจำนวนมาก ขณะที่เคร่งครัดกับบริษัทต่างชาติในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่อ่อนไหว หรือข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 นี้ มีดีลธุรกิจใหญ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักลงทุนจีนถูกระงับไปหลายราย รวมถึง Ant Financial ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ที่พยายามจะเข้าเทคโอเวอร์บริษัท Moneygram ในสหรัฐฯ ด้วยมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 39,600 ล้านบาท
“ CFIUS และหน่วยงานที่กำกับดูแลของสหรัฐฯเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักลงทุนจีน ” รายงานระบุ
อย่างไรก็ตาม Henemann ระบุว่าจีนเองก็มีความเข้มงวดกับการลงทุนนอกประเทศของภาคเอกชนด้วย โดยในปี 2560 ทางการจีนจำกัดการลงทุนต่างประเทศของบริษัทจีนทั้งในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและบันเทิง
บริษัทจีนหลายแห่งยังคงต้องอยู่ในสภาวะจำใจด้วยกฎระเบียบเหล่านี้ อ้างอิงจากผลการศึกษาของ Rhodium ปัจจุบัน บริษัทขนาดใหญ่ของจีน รวมทั้ง HNA กำลังเริ่มถ่ายโอนทรัพย์สินในสหรัฐฯเพื่อชำระหนี้
“ ไม่เพียงบริษัทจีนจะลงทุนน้อยลง พวกเขายังขายทรัพย์สินในสหรัฐฯออกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนถึงปี 2561 นี้ ” รายงานระบุ
โดยบริษัทจีนขายทรัพย์สินในสหรัฐฯ ไปแล้วประมาณ 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 316,800 ล้านบาท ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อ้างอิงจากรายงานของ Rhodium Group และยังมีทรัพย์สินที่อยู่ในระหว่างรอขายอีกประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 132,000 ล้านบาท
การคุมเข้มของสหรัฐฯทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนจีนที่จะกลับมาลงทุนเพิ่มอีกในช่วงไม่กี่เดือนนี้
รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า จะประกาศกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการลงทุนของจีนในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.จนถึงตอนนี้ ยังคงไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่มีความเสี่ยงมากพอที่จะทำให้การทำข้อตกลงทางธุรกิจต่างๆหยุดชะงัก
“ ท่อน้ำเลี้ยงแห้งหมดแล้ว อย่างรวดเร็วมากๆ ” Hanemann ให้ความเห็น.