แอปเปิลจะโกยรายได้จากสินค้าตัวอื่น
ทิม คุก ซีอีโอของบริษัทแอปเปิลกล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีว่า บริษัทมีผลิตภัณฑ์อื่นที่สำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าไอโฟน
โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคกำลังลงทุนในจำนวนที่เหมาะสมกับการทำวิจัยและพัฒนา รวมถึงสินค้าในอนาคตที่ยังเปิดเผยไม่ได้ อ้างอิงจากถ้อยแถลงของผู้บริหารสูงสุด เขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก แต่ได้กล่าวยกย่องนักลงทุนหลายคนที่มองการณ์ไกล โดยเฉพาะวอเรน บัฟเฟต
ทั้งนี้ มหาเศรษฐีบัฟเฟตถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในบริษัทแอปเปิลเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ถึงแม้จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่ำรวยที่สุด แต่แอปเปิลก็ขาดแคลนผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างความตื่นเต้นในตลาดเพราะบางอย่างยังคงอยู่ในกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรม นักลงทุนหลายรายกล่าวว่า บริษัทกำลังลงทุนอย่างสูงในขณะนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ธนาคาร UBS เขียนในรายงานว่าแอปเปิลอาจมีวิศวกรทำงานอยู่มากกว่า 1,000 คนในโครงการที่ประเทศอิสราเอลที่เกี่ยวข้องกับ AR ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมสำคัญจากแอปเปิลในอนาคต
การประชุมประจำปีเป็นที่รวมตัวกันของตัวแทนจากผู้ถือหุ้น 26,000 รายในงานตามปกติเช่น การเลือกตั้งบอร์ดผู้บริหารใหม่ ให้การอนุมัติบัญชีของบริษัท และลงนามในเรื่องค่าตอบแทนประจำปี 2559 มูลค่า 8.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของทิม คุกด้วย
ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งอย่าง เรฟ.เจสซี แจ็คสันได้กดดันซีอีโอด้วยการถามว่า สถานการณ์ในปัจจุบันส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีหรือไม่ โดยยกตัวอย่างหนึ่งคือ การผลักดันของรัฐบาลที่จะดึงการผลิตกลับเข้ามาอยู่ในสหรัฐฯ
“ เรารู้ว่าบริษัทนี้ไม่ได้เติบโตในสถานที่อื่น เรารักประเทศนี้ ” บอสใหญ่ของบริษัทกล่าว โดยย้ำว่า พนักงาน 1 ใน 3 ของบริษัทอยู่ในสหรัฐฯ และชิ้นส่วนมากมายถูกผลิตในสหรัฐฯ
แต่ทิม คุกกล่าวว่าการมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ในสหรัฐฯ ลดทอนความเป็นจริงของสถานการณ์ เขากล่าวว่า แอปเปิลไม่ใช่บริษัทล็อบบี้และไม่ได้เล่นการเมือง แต่การมีบทบาทในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ
ประเด็นอื่นๆ ที่หยิบยกขึ้นมาพูดในการประชุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ.คือเรื่องสิ่งแวดล้อม ความเป็นส่วนตัว ความหลากหลาย และสิทธิมนุษยชน.
