รสนา แนะ B100 แก้ PM 2.5-ปาล์มล้น
รสนา โตสิตระกูล แนะ รัฐบาลควรกำหนดให้รถทางราชการ และรถเมล์เปลี่ยนใช้ ดีเซล บี100 ก่อน สนับสนุนให้เอกชนหันมาใช้มากขึ้น และควรงดเว้นภาษีเพิ่มแรงจูงใจ เพื่อแก้ปัญหา ลดฝุ่นPM 2.5 และ ปาล์มล้นตลาด
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร และ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงาน ได้โพสต์ข้อความเสนอแนะต่อรัฐบาลผ่าน เฟซบุ๊ก รสนา โตสิตระกูล ในหัวข้อ “รัฐบาลส่งเสริมดีเซล บี 100 แก้ปัญหา 2 เด้ง ลดฝุ่นPM 2.5 และแก้ปัญหาปาล์มล้นตลาด” ว่า
“สาเหตุของฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 นั้นมาจากสาเหตุของการเผาไหม้ทั้งจากโรงไฟฟ้า และรถยนต์ที่ใช้น้ำมันฟอสซิล รวมทั้งการเผาหญ้า เผาขยะในที่โล่งแจ้งเป็นต้น ประมาณกันว่ารถยนต์ปล่อยฝุ่น PM 2.5 จำนวน 50,240ตัน/ปี จากโรงไฟฟ้า 31,793ตัน/ปี จากโรงงานอุตสาหกรรม ปีละ 65,140 ตัน และสูงสุดคือการเผาในที่โล่งแจ้งปล่อยฝุ่นจิ๋วถึงปีละ 209,937 ตัน
การแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวคือลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล และเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นรถที่ใช้ดีเซลมีส่วนปล่อยฝุ่น PM 2.5 เพราะมีปัญหาจากการสันดาปภายในไม่สมบูรณ์ ปัจจุบันมีการใช้น้ำมันดีเซลวันละ 60-80 ล้านลิตร
หากรัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการผลิตดีเซล บี100 จากปาล์มน้ำมันมาใช้ แทนที่จะให้ใช้แค่บี10และบี20 จะเป็นวิธีการที่ลดปริมาณฝุ่นจิ๋วได้มากขึ้น และยังเป็นการช่วยแก้ปัญหาปาล์มล้นตลาดปริมาณปาล์มจำนวน 16 ล้านตันสามารถสกัดเป็นน้ำมันปาล์มได้ถึง 30,000ล้านลิตร หรือวันละ 82 ล้านลิตร จึงมีปริมาณเหลือเฟือที่จะนำมาทดแทนดีเซลจากน้ำมันฟอสซิล แค่รัฐบาลสนับสนุนอย่างจริงจังให้นำบี 100มาทดแทนดีเซลสัก 50% ก็ช่วยลดปัญหาฝุ่น และช่วยพยุงราคาปาล์มน้ำมันในประเทศได้เป็นอย่างดี
และหากมีการเพิ่มปริมาณการใช้ให้มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากเป็นการช่วยลดปัญหาปาล์มล้นตลาดแล้ว ยังจะช่วยพยุงราคาปาล์มให้สูงขึ้นโดยรัฐบาลอาจจ่ายค่าประกันราคาปาล์มน้อยลง
รัฐบาลควรกำหนดให้รถทางราชการ และรถเมล์เปลี่ยนมาใช้ก่อนเพื่อสนับสนุนให้เอกชนหันมาใช้มากขึ้น แต่ที่สำคัญคือให้มีราคาถูก โดยรัฐบาลงดเว้นการเก็บภาษี บี 100 ก็จะเป็นแรงจูงใจที่คนหันมาใช้น้ำมันสะอาดมากขึ้น
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสให้เรือพระที่นั่งใช้ไบโอดีเซล 100% ซึ่งเป็นข้อยืนยันว่า ไบโอดีเซล หรือ ดีเซล บี 100 สามารถใช้การได้ ซึ่งปัจจุบันชาวภาคใต้จำนวนไม่น้อย หันมาใช้ดีเซล บี 100 กับรถดีเซลกันแล้ว โดยไม่มีปัญหากับเครื่องยนต์เลย อยู่ที่รัฐบาลจะกล้าตัดสินใจส่งเสริมให้มีการใช้อย่างกว้างขวางหรือไม่??!!”