การผลิตจีนโตเกินคาด
เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ดัชนีชี้วัดแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมการผลิตของจีนในเดือนก.ย.มีตัวเลขที่สูงเกินคาดการณ์
โดยผลสำรวจภาคเอกชนที่มีต่อกิจกรรมการผลิตของจีน หรือ ดัชนี PMI จาก Caixin/Markit อยู่ที่ 51.4 ในเดือนก.ย. สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้เป็นต้นมา โดยข้อมูลล่าสุดยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ 50.2 จากโพลนักวิเคราะห์ของรอยเตอร์ และตัวเลขที่บันทึกได้ในเดือนส.ค.คือ 50.4
ตัวเลขผลสำรวจดัชนี Caixin/Markit ได้แรงขับเคลื่อนสำคัญจากดีมานด์ในประเทศที่มีเสถียรภาพ ขณะที่ยอดขายต่างประเทศยังคงซบเซาจากผลกระทบของสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน จากแถลงการณ์ร่วมของ Caixin และ IHS Markit
“ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯมีผลกระทบที่เห็นชัดกับการส่งออก ค่าใช้จ่ายในการผลิตและความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ” จงเจิ้งเฉิง ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่ CEBM Group ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Caixin ระบุ
“ รัฐบาลกลางเน้นการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดในประเทศ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รวดเร็วขึ้น การยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น และการลดภาษีและค่าธรรมเนียมมีแนวโน้มชดเชยผลกระทบด้านลบจากดีมานด์ต่างประเทศที่ซบเซาลงได้และลดแรงกดดันที่มีกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน”
การเปิดเผยผลสำรวจดัชนี PMI นี้มีขึ้นหลังการประกาศดัชนี PMI ภาคการผลิตที่เป็นทางการของจีน โดยตัวเลขทางการอยู่ที่ 49.8 ในเดือนก.ย. นับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แต่ยังคงสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ 49.5 จากโพลนักวิเคราะห์ของรอยเตอร์โดยดัชนีอยู่ที่ 49.5 ในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ผลสำรวจดัชนี PMI ของทางการมักเป็นตัวเลขจากธุรกิจและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่
ขณะที่ดัชนี Caixin เป็นการผสมกันระหว่างบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง
แม้ดัชนี PMI ทั้งสองจะสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของจีนยังคงซบเซาจากบรรยากาศแวดล้อมภายนอกที่อ่อนแรง ผลสำรวจของ Caixin / Markit ยังแสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตยังคงระมัดระวังกับเป้าหมายธุรกิจของตัวเอง
“ นี่มีแนวโน้มของการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง” นักวิเคราะห์ที่บริษัทที่ปรึกษา Capital Economics ระบุในเอกสารที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ก.ย.
นอกจากนี้ ความท้าทายที่ผู้ผลิตของจีนต้องเจอยังรวมถึงภาคการเงินที่ตึงตัวในประเทศ และสงครามการค้า