วิศวกรรมสถานฯ จัดงาน “ก้าวไปด้วยกัน…สู่อุตสาหกรรม 4.0”
วิศวกรรมสถานฯจับมือกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “ก้าวไปด้วยกัน…สู่อุตสาหกรรม 4.0” หวังถ่ายทอดองค์รู้ให้ผู้ประกอบการไทย มุ่งพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมไทยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่คุณภาพ เพื่อแข่งขันในเวทีโลก
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่าอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) เป็นการปฎิรูปอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่เน้นนวัตกรรม การปรับเปลี่ยนใหม่ๆ ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง รองรับความต้องการใหม่ๆ ที่ตลาดและสังคมคาดหวังในปัจจุบันและอนาคต หากย้อนกลับไปในอดีต การฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก อุตสาหกรรม 1.0 ยุคการผลิตด้วยเครื่องจักรกลไอน้ำทุ่นแรงงานคน/สัตว์
จากนั้นเป็นอุตสาหกรรม 2.0 ยุคแห่งการผลิตแบบ ที่สินค้าผลิตเหมือนกันในปริมาณมาก การคิดค้นมอเตอร์ไฟฟ้า/พลังงานไฟฟ้า เพื่อทดแทนเครื่องจักรกลไอน้ำผลิตสินค้าที่เร็วขึ้น ต่อมาพัฒนาเป็นอุตสาหกรรม 3.0 ยุคเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ดิจิทัล/หุ่นยนต์ การผลิตทุกอย่างเริ่มอัตโนมัติมากขึ้นทำงานซ้ำๆ ได้ดี มีการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานทดแทนแรงงานมนุษย์
ดร.ธเนศ กล่าว่า แล้วโลกก็มาถึงยุคดิจิทัล ซึ่งตัวที่ผลักดันได้ชัดเจนที่สุดให้เกิด 4.0 ขึ้นมาคืออินเทอร์เน็ตและคลาวด์ เร่งให้เกิดอุตสาหกรรม 4.0 การผลิตด้วยการนำเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเข้ามาการเชื่อมโยงข้อมูลการผลิตระหว่างเครื่องจักรอย่างมีประสิทธิภาพ การผลิตที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆละเอียดขึ้นแบบที่มนุษย์ไมสามารถผลิตได้ เป็นการรวมพลังระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลควบคุมเครื่องจักรให้เครื่องจักรสื่อสารข้อมูลกันเอง
ทั้งนี้ เทคโนโลยี 4 อย่างที่มีบทบาทสูง ได้แก่ เทคโนโลยีอัตโนมัติ-หุ่นยนต์, เทคโนโลยีดิจิทัล,เทคโนโลยีชีวภาพและเทคโนโลยีเคมี ส่วนประเภทของการสร้างนวัตกรรม ประกอบด้วย นวัตกรรมผลิตภัณฑ์,นวัตกรรมการผลิตและระบบนวัตกรรม โดยมีระดับของนวัตกรรม มีทั้งนวัตกรรมบางส่วนและนวัตกรรมทุกส่วน การพัฒนานวัตกรรมเริ่มจากการศึกษาวิเคราะห์แสวงหาหัวข้อเป็นโครงการ,ออกแบบพัฒนาและทดลองต้นแบบ, ปฎิบัติการสู่นวัตกรรมนำมาสู่ผลลัพธ์จนเป็นสินทรัพย์ใหม่ ในด้านคุณค่าและผลประโยชน์ของนวัตกรรมจะนำมาซึ่งมูลค่าธุรกิจเชิงพาณิชย์การตลาด คุณค่าต่อสังคมการยอมรับและสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศชาติได้มีการทำแบบทดสอบ ช่องทางการพัฒนานวัตกรรมและและการประเมินผลการพัฒนา
ด้าน รศ.ดำรงค์ ทวีแสงสกุลไทย กล่าวถึง IMS CEN 16555 (Innovation Management System: IMS)ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการนวัตกรรม ในมาตรฐานของยุโรป CEN 16555 ได้ให้คำนิยามและความหมายของนวัตกรรม (Innovation) ว่า เป็นการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กระบวนการใหม่ วิธีการจัดการองค์กรแบบใหม่ทั้งในทางธุรกิจ และวิธีการทางการตลาด พร้อมไปกับการกำหนดกระบวนการเพื่อที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว
โดยระบบการจัดการนวัตกรรมตามมาตรฐานของยุโรปนี้ เป็นแนวทางที่ทำให้ทุกคนในองค์กรจะต้องทำความเข้าใจกับบริบทขององค์กร จัดทำระบบการนำและการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้บริหารระดับสูง การวางแผนเพื่อให้เกิดความสำเร็จด้านนวัตกรรม การบ่งชี้และผลักดันปัจจัยขับเคลื่อนและปัจจัยเกื้อหนุนทางนวัตกรรม การพัฒนากระบวนการจัดการเชิงนวัตกรรม การประเมินและการปรับปรุงสมรรถนะของระบบการจัดการนวัตกรรม ทำความเข้าใจถึงเทคนิควิธีการและการใช้มันในการจัดการนวัตกรรม นอกจากนี้ยังมีเวิร์คช๊อปการพัฒนาและประเมิน IMS ตลอดจนศึกษากรณีตัวอย่างจากนวัตกรรมของ CPF
“การพัฒนาคนและปรับทักษะของแรงงานให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศเป็นเรื่องสำคัญประเทศที่จริงจังกับการก้าวไปสู่ยุค 4.0 ต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงพยายามสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาทักษะของแรงงาน (Skill Development Ecosystem) เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานมีช่องทางในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองตามที่ต้องการ ซึ่งเกิดจากการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม” รศ.ดำรงค์กล่าว
อนึ่ง วิศวกรรมสถานฯ ร่วมกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมไทยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่คุณภาพ ประสิทธิภาพ เสริมศักยภาพในการแข่งขัน สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนสนองตอบความต้องการของตลาดที่แตกต่างประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นหนึ่งในกลไกร่วมขับเคลื่อนสู่เป้าหมายอนาคตไทยแลนด์ 4.0 โดยมีผู้ประกอบการและบุคลากรในวงการอุตสาหกรรมเข้าร่วมงาน ณ.ห้องประชุม อาคาร วสท. รามคำแหง 39.