CIMB รับหลักการธนาคารที่มีความรับผิดชอบ
CIMB และธนาคาร 130 แห่งทั่วโลก สินทรัพย์รวม 47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รับหลักการของการเป็นธนาคารที่มีความรับผิดชอบ นับเป็นการตั้งมาตรฐานสูงขึ้นให้ภาคการธนาคารและการเงิน เพื่อปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติและข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นิวยอร์ค: CIMB Group Holdings Berhad หรือกลุ่มซีเอ็มบี บริษัทแม่ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งหลักการด้านการธนาคารที่มีความรับผิดชอบมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติและข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในฐานะผู้ลงนามในหลักการด้านการธนาคารที่มีความรับผิดชอบ กลุ่มซีไอเอ็มบีเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคาร 130 แห่งทั่วโลก ซึ่งมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 47 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ให้คำมั่นที่จะมีบทบาทสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายอนาคตที่ยั่งยืน
ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นที่จุดเริ่มต้นของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในการเปิดตัวหลักการอย่างเป็นทางการของธนาคารที่มีความรับผิดชอบ (the Principles for Responsible Banking) นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่สุดระหว่างอุตสาหกรรมการธนาคารทั่วโลกกับสหประชาชาติ
“หลักการของธนาคารเพื่อการรับผิดชอบของสหประชาชาติ (The UN Principles for Responsible Banking) เป็นแนวทางสำหรับอุตสาหกรรมธนาคารทั่วโลกที่จะตอบสนอง ขับเคลื่อน และได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างยั่งยืน The Principles นี้จะสร้างภาระรับผิดชอบ (accountability) ที่ทำให้ตระหนักในความรับผิดชอบ (responsibility) และความทะเยอทะยานที่จะสามารถขับเคลื่อนให้เกิดการลงมือทำ” นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในงานเปิดตัว โดยมี 130 องค์กรและผู้บริหารระดับสูงกว่า 45 คนขององค์กรนั้นๆร่วมลงนาม
เต็งกู ซาฟรูล อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี กล่าวว่า “ในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งของ UNEP-FI Principles for Responsible Banking เราเชื่อมั่นว่าสังคมซึ่งก่อตั้งขึ้นบนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาค และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเท่านั้น ที่จะทำให้พนักงานของเรา ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ สามารถเจริญเติบโตได้ ซึ่งการลงนามในหลักการ เรามุ่งมั่นที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ และความสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนและเร่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันทั้งคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นอนาคต”
อิงเกอร์ แอนเดอร์เซน กรรมการบริหารโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมธนาคารที่วางแผนสำหรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ไม่เพียงแต่จะช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่มีคาร์บอนต่ำและสภาพภูมิอากาศที่มีความยืดหยุ่นเท่านั้นแต่จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เมื่อระบบการเงินเปลี่ยนจากการทุ่มทรัพยากรอย่างหิวโหย กลับคืนสู่วิถีทางธรรมชาติ จะเป็นทางออกที่ทุกคนได้รับชัยชนะในระยะยาว”
The Principles for Responsible Banking ได้รับการสนับสนุนโดยกรอบการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและภาระรับผิดชอบ และจากการร่วมลงนาม กลุ่มซีไอเอ็มบีมุ่งมั่นในความโปร่งใส จากผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่มีต่อผู้คนและโลกใบนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีจะมุ่งเน้นไปที่จุดที่มีผลกระทบมากที่สุดในธุรกิจหลัก และจะกำหนดและดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อขยายผลลัพธ์เชิงบวก พร้อมทั้งชี้เป้าผลกระทบเชิงลบใดๆก็ตามที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ระดับโลกและระดับประเทศ
The Principles for Responsible Banking จะช่วยให้กลุ่มซีไอเอ็มบีมีกรอบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ในการระบุและคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่พัฒนาอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ธนาคารสามารถระบุและจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นกลุ่มธนาคารเดียวในอาเซียนที่จะเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของหลักการด้านการธนาคารที่รับผิดชอบ ด้วยความยั่งยืนที่ฝังอยู่ในแผนเติบโตเชิงกลยุทธ์ในปัจจุบัน นั่นคือ Forward23 กลุ่มซีไอเอ็มบีจึงเริ่มมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญเช่นหน่วยงานกำกับดูแล นักลงทุน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พนักงาน และชุมชนเพื่อที่จะร่วมการเดินทางไปกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นสำหรับทุกคน ในฐานะหนึ่งในขั้นตอนแรกของการเร่งการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนในวันพรุ่งนี้ผ่านภาคธุรกิจและการเงิน กลุ่มซีไอเอ็มบีจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน The Cooler Earth [https://coolerearth.cimb.com/] การประชุมสุดยอดด้านความยั่งยืนขั้นต้นในวันที่ 1-2 ตุลาคม 2562 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์