ธอส.เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2559
เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2559 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้111,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดันยอดสินเชื่อคงค้างรวม 906,039 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.01% จากสิ้นปี 2558 ตัวเลข NPL ลดลงเหลือ 5.60% ของสินเชื่อรวม
ประกาศแผนโค้งสุดท้ายปลายปี มุ่งเน้นเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคดิจิตอลควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างโอกาสทำให้คนไทย มีบ้าน หวังช่วยดันยอดสินเชื่อปี 2559 ตามเป้าหมาย 170,043 ล้านบาท นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2559 ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนว่า ธนาคารเติบโตได้อย่างต่อเนื่องพร้อมเป็นสถาบันการเงินหลักในการสร้างโอกาสทำให้คนไทยมีบ้าน โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 สามารถปล่อยสินเชื่อปล่อยใหม่ได้ทั้งสิ้น 111,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.79% คิดเป็น 96,319 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2559 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2558 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 906,039 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.01% สินทรัพย์รวม 988,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.77% เงินฝากรวม 791,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 50,702 ล้านบาท คิดเป็น 5.60% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงจากไตรมาสที่ 2 จำนวน 0.16% ซึ่งเป็นผลมาจากธนาคารได้จัดทำมาตรการใหม่สำหรับลูกค้าที่เคยมีปัญหาการ ผ่อนชำระเพื่อช่วยให้กลับมามีสถานะปกติได้ ส่งผลให้ธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิ 7,450 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ 16.21% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย “ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่ธนาคารที่ดีที่สุด สำหรับการมีบ้าน ในปีนี้ธนาคารได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ส่งผลให้สินเชื่อใหม่ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านประชารัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ให้กู้วงเงินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส. เพื่อข้าราชการ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อผู้สูงอายุ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ล่าสุดโครงการสินเชื่อบ้าน 63 ปี ธอส. อัตราดอกเบี้ย 0.63% ต่อปี นาน 5 เดือน พ่วงแคมเปญ 4 ฟรี!!! ที่เปิดให้ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่าน นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าประชาชนให้การตอบรับมากที่สุดและธนาคารได้ขยายกรอบวงเงินรวมกันกว่า 37,500 ล้านบาทแล้ว ซึ่งจะส่งผลดีไปถึงตัวเลขสินเชื่อปล่อยใหม่ไตรมาสสุดท้าย ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 170,043 ล้านบาท” นายฉัตรชัยกล่าว นายฉัตรชัย กล่าวถึงความคืบหน้า “ โครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน ” ที่จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชนเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในอนาคต โดยหลังจากเริ่มดำเนินโครงการมาเกือบ 6 เดือน ล่าสุด ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 มีประชาชนทั่วประเทศมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 15,000 ราย และมีผู้ที่เปิดบัญชีเงินฝากตามเงื่อนไขของโครงการแล้วกว่า 1,300 ราย ทั้งนี้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการและฝากเงินสม่ำเสมอตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด จะสามารถยื่นคำขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยภายใต้หลักเกณฑ์ของโครงการได้อีกด้วย สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี ธนาคารจะยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทำให้คนไทยมีบ้านผ่านโครงการสินเชื่อนโยบายรัฐ และผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการสินเชื่อบ้านกตัญญูเลี้ยงดูบุพการี อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 4 ปีแรก และยังให้ส่วนลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกกตัญญูที่ผ่อนชำระดี 4 ปี นอกจากนี้ธนาคารได้มุ่งเน้นการตลาดเชิงรุกเพิ่มช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยกำหนดจัดงาน “ ธอส.มหกรรมที่อยู่อาศัย – สินเชื่อเพื่อประชาชน ประจำปี 2559 ” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สำหรับปี 2559 ได้จัดขึ้นที่สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2559 และนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2559 และสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์ NPA หรือ บ้านมือสอง ธอส. ธนาคารได้ จัดโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มเติมดอกเบี้ย 0% นานถึง 24 เดือน กรณีผ่อนชำระเงินดาวน์ 20% ของราคาซื้อขาย หรือหากเทเงินดาวน์ 20% ของราคาซื้อขาย ส่วนที่เหลืออีก 80% รับสินเชื่อดอกเบี้ย 0% นานถึง 24 เดือนเช่นกัน สำหรับแผนการดำเนินงาน ธนาคารมุ่งเน้นเดินหน้าทำให้คนไทยบ้านควบคู่กับการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรให้เป็น SMART Organization เพื่อรองรับการเข้ามาของบริการทางเงินรูปแบบใหม่ (Financial Technology : FinTech) ที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต อาทิ การปรับปรุงสาขารูปแบบใหม่ที่ให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในรูปแบบของ GH Bank Smart Branch ซึ่งในปีนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 4 สาขา การให้บริการใบเสร็จรับชำระเงินกู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ : GH Bank Smart Receipt แอพพลิเคชั่นที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสินเชื่อที่สมัครใช้บริการจะได้รับใบเสร็จชำระเงินกู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยไม่จำเป็นต้องรอการจัดพิมพ์ส่งผ่านทางไปรษณีย์ และพัฒนาระบบเพื่อรองรับการให้บริการ PromptPay บริการโอน-รับโอนเงินรูปแบบใหม่ที่จะเริ่มให้บริการพร้อมกันทุกสถาบันการเงิน ที่มา : กระทรวงการคลังผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง