สมคิด สั่งด่วนเร่งช่วย SMEs รับมือ trade war
รองนายกรัฐมนตรี สั่ง กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งช่วยเหลือ ผู้ประกอบการคนตัวเล็กหรือเอสเอ็มอี เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อรองรับผลกระทบจากสงครามการค้า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้ให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หารายชื่อบริษัทที่กำลังเตรียมย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนและประเทศอื่นที่จะไปประเทศเวียดนาม พร้อมจัดโรดโชว์ออกไปชักจูงให้บริษัทที่กำลังจะย้ายฐานการผลิตตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยให้ได้
สำหรับการชักจูงการลงทุนนอกจากใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้ว หากจำเป็นก็สามารถใช้งบสนับสนุนดึงดูดการลงทุนที่มีอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาทได้ เพราะขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในจุดที่ความสามารถการแข่งขันไม่ดีเมื่อเทียบกับเวียดนามทั้งเรื่องค่าแรงที่สูงกว่า และเทคโนโลยีที่ไม่ได้ดีไปกว่าเวียดนาม
นายสมคิด ยังระบุว่า สงครามการค้าเริ่มส่งผลกระทบแล้ว ดังนั้น เรื่องเร่งด่วน ต้องเร่งช่วยเหลือ ผู้ประกอบการคนตัวเล็กหรือเอสเอ็มอี โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง รองรับผลกระทบที่กำลังกระจายเข้ามาโดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนนี้
ดังนั้น เอสเอ็มอี แบงก์ และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รวมถึงธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต้องร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้เอสเอ็มอีคนตัวเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น
ส่วนงบประมาณสนับสนุน หากไม่เพียงพอได้ให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมไปหารือกับสำนักงบประมาณของบเพิ่ม โดยให้แจ้งถึงความจำเป็นใช้งบประมาณในช่วงนี้ พร้อมกันนี้ยังขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมปรับบทบาทครั้งใหญ่ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการเกษตรอีกด้วย
นอกจากนั้นยังได้ขอให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จัดศูนย์ไอทีซีให้เพียงพอกับความต้องการใช้บริการของเอสเอ็มอี ปัจจุบัน กสอ.มีศูนย์ไอซีที รวม 105 แห่ง หากงบประมาณไม่เพียงพอก็ให้ของบประมาณเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ ต้องมีการสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์รองรับการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งเรื่องนี้ขอให้บีโอไอนำปรับใช้เป็นนโยบายใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน.