ศุลกากรผนึกกองทัพภาคที่ 4 แก้การลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร
กรมศุลกากรผนึกกาลังกองทัพภาคที่ ๔ บูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหาการลักลอบนาเข้าสินค้าเกษตร น้ามันปาล์ม น้ามันเชื้อเพลิง จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ณ ห้องอนุมานราชธน นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมคณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ พลโท พรศักดิ์พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ ๔ เพื่อประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย โดยมอบนโยบายและติดตามผลการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยตามแนวชายแดน และจากผลการดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้มีการจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น และมีการจับกุมสินค้าเกษตร น้้ำมันปาล์ม น้ำมันเชื้อเพลิง อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปีงบประมาณ 2562 มีการจับกุม น้ามันปาล์ม น้ามันเชื้อเพลิง จำนวน 805,000 ลิตร มูลค่าของกลางกว่า 25 ล้านบาท
ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย โดยให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายความมั่นคงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดำเนินการกำหนดมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นของด่านตรวจความมั่นคง จัดชุดการเข้าตรวจตามช่องทางผิดกฎหมายในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการลักลอบขนย้ายพืชผลทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ 1) นมดิบและนมพร้อมดื่ม 2) นมผงขาดมันเนย 3) มันฝรั่งสดหรือแช่เย็น 4)หอมหัวใหญ่ 5)กระเทียม 6)มะพร้าวและมะพร้าวฝอย 7) ลำไยแห้ง 8)เมล็ดกาแฟ 9) ชา(ชาใบ ชาผง) 10) พริกไทย 11) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 12) ข้าว 13) เมล็ดถั่วเหลือง 14) เนื้อมะพร้าวแห้ง 15) เมล็ดพันธุ์ผลิตภัณฑ์กาแฟ 16) หอมหัวใหญ่ 17) น้้ำมันถั่วเหลือง 18) น้้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม 19) น้ำมันมะพร้าว 20) น้ำตาลทราย 21) กากถั่วเหลือง 22) ไหมดิบ (ยังไม่เข้าเกลียว) และ 23) ใบยาสูบ
ทั้งนี้สินค้าเกษตรทั้ง 23 รายการนี้เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสาคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีความเกี่ยวข้องกับเกษตรกรจำนวนมาก ซึ่งภาครัฐโดยกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อให้การนำเข้าเป็นไปด้วยความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
อนึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) และได้ผูกพันสินค้าเกษตร 23 รายการนี้ไว้ภายใต้กรอบความตกลงการเกษตร โดยมีหลักการต้องยกเลิกมาตรการห้ามหรือจำกัดการนำเข้าที่มิใช่ภาษี และกำหนดเป็นมาตรการโควตาภาษี (Tariff Rate Quota : TRQ) แทนสินค้าที่ผูกพันโควต้าภาษี สินค้าเกษตร 23 รายการ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ 22 รายการ และอยู่ภายใต้การกากับดูแลของกระทรวงการคลัง 1 รายการ คือ ใบยาสูบ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร และ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตามแนวชายแดนของไทย ได้บูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งตลอดมา ตามข้อสั่งการดังกล่าว นอกจากนี้ อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการและกำชับให้ด่านศุลกากรทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนเข้มงวด ป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรและน้ามันเถื่อนรวมถึงสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติดที่มีการลักลอบนาเข้ามาในราชอาณาจักร จากผลการดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้มีการจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น และมีการจับกุม น้ามันปาล์ม น้ามันเชื้อเพลิง ในช่วงปีงบประมาณ 2562 จานวน 805,000 ลิตร มูลค่าของกลางกว่า 25 ล้านบาท.