ไอคอนสยาม-รถไฟฟ้าดันคอนโดริมแม่น้ำคึกคัก
อสังหาฯ ครึ่งปีแรก ส่งสัญญาณชะลอตัว แม้ภาพรวมเปิดโครงการจะเพิ่มขึ้น แต่ยอดขายติดลบ พิษ LTV และเศรษฐกิจโลก สวนทางยอดขายคอนโดฯ กลุ่มพรีเมียม คาดทั้งปีทะลุเป้า 7,500 ล้านบาท ครึ่งปีแรกกวาดไปได้ 5,000 กว่าล้านบาท
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จะเริ่มเห็นผู้ประกอบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่อีกครั้ง ตัวเลขเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 53% และเติบโต 96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยอดขายกลับไม่เป็นไปตามการเปิดตัว โดยตัวเลขติดลบ 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และติดลบ 17% เมี่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเริ่มบังคับใช้มาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาฯ (LTV) และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลต่อความมั่นใจและการตัดสินซื้อที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวตาม ในส่วนยอดขายคอนโดมิเนียมในกลุ่มพรีเมียมของบริษัท คาดว่าจะทำได้เกินเป้าที่วางไว้ 7,500 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากการขายโครงการที่อยู่ในสต๊อก และได้เปิดขาย
โครงการ แชปเตอร์ จุฬาฯ – สามย่าน มูลค่า 1,350 ล้านบาท ทำยอดขายไปได้แล้ว 90% เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนให้ยอดขายของกลุ่มพรีเมียมเพิ่มขึ้น ล่าสุด มีการเปิดขายโครงการ แชปเตอร์ เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์ มูลค่า 4,720 ล้านบาท เริ่มต้น 3.29-34 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนทำเลเจริญนคร เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบใช้ชีวิตในเมือง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการที่พักอาศัยติดริมแม่น้ำ แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง ไอคอน สยาม, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์, คอมมูนิตี้มอลล์ รวมทั้งใกล้กับโรงเรียนชั้นนำหลายแห่ง ปัจจุบัน ทำยอดขายไป 90% หรือราว 4,060 ล้านบาท ที่เหลืออีก 10% คาดว่าจะสามารถหมดในรอบ Open house วันที่ 3-4 ส.ค.นี้
“ปีนี้เราพอใจกับผลงาน ทำให้ไม่ต้องรีบเปิดโครงการใหม่ เนื่องจากยอดขายกลุ่มพรีเมียมเกินเป้าที่ไว้ และบริษัทจะเลื่อนการเปิดโครงการใหม่อีก 1 โครงการที่จะเปิดในปีนี้ออกไปเปิดในปี 63 แทน ได้แก่ โครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 มูลค่า 1,820 ล้านบาท ส่วนในปีหน้า จะมีการเปิด 3-4 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาอยู่แล้ว โดยที่มีโครงการ CHAPTER ทองหล่อ 2 และโครงการในย่านพญาไท มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท และอีก 1-2 โครงการ “
โดยกลยุทธ์ที่ทำให้ยอดขายเติบโต มาจากการทำสำรวจตลาด และลงลึกความต้องการของลูกค้าในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเน้นกลุ่มที่ลูกค้าที่เป็น Specific Demand ซึ่งบริษัทเห็นกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน บนทำเลที่มีศักยภาพและตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมกับพัฒนาสินค้าที่ไม่ซ้ำกับผู้พัฒนารายอื่น และมีขนาดห้องที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนั้นๆ ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในด้านยอดขายจากโครงการที่ผ่านมาในปีนี้.