ฟอร์ดลงทุนสตาร์ทอัพร่วมพันล้าน
บริษัทฟอร์ดเตรียมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อโครงการพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์ไร้คนขับเป็นระยะเวลา 5 ปี
ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2564 บริษัทฟอร์ดจะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท อาร์โก เอไอ บริษัทสตาร์ทอัพผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองพิตต์สเบิร์ก บริษัทริเริ่มโครงการในปี 2559 ที่ผ่านมา โดยมีอดีตพนักงานจากอูเบอร์และกูเกิลที่เคยทำงานให้กับรถยนต์ไร้คนขับเข้าร่วมพัฒนาด้วย
ทางบริษัทจะรับสมัครวิศวกรผู้นำโครงการ และผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์เข้ามาพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ต่อไป
นายราจ แนร์ รองประธานของบริษัทฟอร์ดกล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ทำให้บริษัทฟอร์ดได้เปรียบในวงการพัฒนาระบบปฏิบัติการรถยนต์ไร้คนขับซึ่งกำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนักในปัจจุบัน
นายราจได้ให้สัมภาษณ์กับนักวิเคราะห์เศรษฐกิจว่า “การพัฒนาระบบปฏิบัติการนี้ถือว่าโดดเด่นในวงการเลยทีเดียวนี่จะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่เติบโตเร็วที่สุด แต่ยังเต็มไปด้วยศักยภาพของทีมพัฒนาที่เก่งกาจ”
นายราจกล่าวถึงโครงการที่มุ่งพัฒนาระบบไร้ผู้ควบคุม ตอนนี้อยู่ในระยะที่ยอดเยี่ยมเกินขั้นตอนวิจัยไปมาก แต่โดยรวมยังต้องการความเป็นหนึ่งเดียวกับเทคโนโลยีที่คอยควบคุมการขับขี่ ซึ่งตอนนี้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ
พนักงานในบริษัทอาร์โก เอไอ อาจได้รับส่วนแบ่งในบริษัทเพียงเล็กน้อย เหตุเพราะโครงสร้างบริษัทที่สร้างมาเพื่อดึงตัววิศวกรระดับแถวหน้ามาร่วมงานเท่านั้น
บริษัทฟอร์ดกล่าวถึงการลงทุนในครั้งนี้ซึ่งจะทำให้แผนการสร้างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองเพื่อธุรกิจรถยนต์ร่วมโดยสารหรือการใช้รถร่วมกันเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจได้เริ่มใช้งานจริงในปี 2564
บริษัทอาร์โก เอไอ วางแผนจะรับสมัครพนักงานกว่า 200 คนในสาขาพิตต์สเบิร์ก มิชิแกน และซิลิคอน วัลเล่ย์
ทั้งนี้บริษัทอาร์โก เอไอ และบริษัทอื่นซึ่งพัฒนาระบบปฏิบัติการรถยนต์ไร้คนขับให้เหตุผลว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์นี้จะช่วยให้ท้องถนนปลอดภัยมากขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาในการเดินทางสามารถใช้บริการและเดินทางได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
นายไบรอัน เซลสกี ประธานบริษัทอาร์โก เอไอ กล่าวว่า “เราอยู่ในจุดผกผันสำหรับการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้อย่างกว้างขวางในสังคม และหากการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับสำเร็จจะเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีการเดินทางของผู้คนและของยานพาหนะครั้งใหญ่เลยทีเดียว”