เยอรมนีได้ดุลการค้าสูงสุดทุบสถิติ
เยอรมนีรายงานถึงการได้ดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2559 เนื่องจากตัวเลขส่งออกยังคงสูงกว่าการนำเข้าติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิงจากตัวเลข ยอดส่งออกของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 1.2% เป็น 1.2 ล้านล้านยูโรในปี 2559 ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 954,600 ล้านยูโร
ส่งผลให้เยอรมนีมีตัวเลขเกินดุลสูงถึง 252,900 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมคือ 244,300 ล้านยูโรในปี 2558
มีการเปิดเผยตัวเลขนี้ไม่กี่วันหลังจากที่ปรึกษาการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาเยอรมนีว่าหาประโยชน์จากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเพื่อกระตุ้นการส่งออกของเยอรมนี
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Financial Times เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายปีเตอร์ นาวาโร กล่าวหาว่า ค่าเงินยูโรที่ผันผวนและอ่อนค่าลงเป็นการหลอกลวงของเยอรมนี และทำให้เยอรมนีได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆอย่างไม่ยุติธรรม
ทั้งนี้ ค่าเงินที่อ่อนค่าลงทำให้สินค้ามีราคาถูกลง ได้เปรียบในการค้าขายกับต่างประเทศนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีปฏิเสธการกล่าวหานี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา มีการกดดัน
นโยบายของประเทศเยอรมนีอยู่เสมอมาว่า ควรให้ธนาคารกลางยุโรปดำเนินนโยบายและมีมาตรการทางการเงินที่เป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับประเทศใด
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเยอรมนีกล่าวว่า ที่จริงแล้ว ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเกินไปสำหรับเยอรมนี
“ ความจริงก็คือ ค่าเงินยูโรอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยสำหรับทุกประเทศในยูโรโซน และหมายความว่า สำหรับบางประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงก็อาจนำไปสู่การได้ดุลการค้า ซึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือกรณีของประเทศเยอรมนี”
ยิ่งไปกว่านั้น ทางเยอรมนียังแถลงว่า ได้พยายามที่จะกระตุ้นและหนุนดีมานด์ภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลถึงการนำเข้ามาโดยตลอด เพื่อเป็นการลดตัวเลขการเกินดุลการค้าที่สูงเกินไป
โดยมาตรการสำคัญที่เยอรมนีได้ทำไปแล้วคือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำระดับประเทศในปี 2558 ที่ผ่านมา และเพิ่มจำนวนงบประมาณการใช้จ่ายของภาครัฐทั้งในด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เงินบำนาญหลังเกษียณอายุ และโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล.