คปภ.ประเดิมถกอนุญาโตตุลาการ-ผู้ไกลเกลี่ย
คปภ. จัดประชุมร่วมอนุญาโตตุลาการและผู้ไกล่เกลี่ยนัดแรก หวังถอดบทเรียนปัญหาทางปฏิบัติ เดินหน้าบูรณาการการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวถึง “โครงการสัมมนาอนุญาโตตุลาการและผู้ไกล่เกลี่ยสำนักงานคปภ.” ให้ผู้ร่วมประชุมสัมมนาประกอบด้วยผู้บริหารและพนักงานสำนักงาน คปภ. อนุญาโตตุลาการ สำนักงานคปภ. และผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงาน คปภ. ณโรงแรมดิเอมเมอรัลด์กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยย้ำว่า สำนักงานคปภ. ได้จัดให้มีกระบวนการในการระงับข้อพิพาททางเลือกด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย โดยผู้ชำนาญการเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการประกันภัย ซึ่งทั้งสองกระบวนการมีบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ดำเนินการในการระงับข้อพิพาท ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลการดำเนินการเป็นที่น่าพอใจ สำหรับการระงับข้อพิพาททางเลือกด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2541 (ซึ่งขณะนั้นหน่วยงานกำกับดูแลด้านประกันภัยคือกรมการประกันภัย) โดยมีเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการ 5,065 เรื่อง สามารถยุติข้อพิพาทได้แล้ว 4,630 เรื่องคิดเป็นร้อยละ 91
ส่วนการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย ซึ่งเพิ่งเริ่มให้บริการอย่างเป็นระบบเมื่อปี 2559 มีเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย โดยผู้ชำนาญการทั้งสิ้น 780 เรื่อง ซึ่งสามารถไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาทร่วมกันได้ 643 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 82.40
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีอนุญาโตตุลาการที่ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้กับสำนักงาน คปภ.ทั้งสิ้น 98 คนโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามความรู้ความเชี่ยวชาญสาขาต่างๆ 5 สาขา ได้แก่สาขากฎหมายทั่วไปสาขากลุ่มการประกันภัย สาขาการเงิน- การบัญชี สาขาวิศวกรรม และสาขาความเชี่ยวชาญด้านอื่นๆ ส่วนศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ มีผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยที่ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้กับสำนักงาน คปภ. ทั้งสิ้น 50 คน
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยผู้รับประโยชน์หรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยสำนักงาน คปภ. จึงได้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการมีความชัดเจนมีขั้นตอนที่สอดคล้องเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบตอบสนองความต้องการของประชาชนและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจประกันภัยโดยการระงับข้อพิพาทด้านประกันภัยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนแรกการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยว่าด้วยการพิจารณาข้อร้องเรียนและดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัย พ.ศ. 2552 ถือได้ว่าเป็นกระบวนการระงับข้อพิพาทด่านแรกของสำนักงานคปภ.
ขั้นตอนที่สอง การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยพ.ศ. 2559
ขั้นตอนที่สาม การระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการตามระเบียบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยว่าด้วยอนุญาโตตุลาการพ.ศ. 2551 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ2) พ.ศ. 2553
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงและพัฒนาการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยพัฒนากระบวนงาน โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดทำระบบฐานข้อมูลการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ซึ่งจะเป็นระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลตั้งแต่กระบวนการรับเรื่องร้องเรียนการจ่ายสำนวนและการจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนนำข้อมูลสถิติมาวิเคราะห์สามารถตรวจสอบได้ว่าผ่านกระบวนการใดและพิจารณาอยู่ในขั้นตอนใดและนำข้อมูลมาวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนากระบวนการระงับข้อพิพาทให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงกระบวนการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยเพื่อลดปัญหาความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน
การสัมมนาอนุญาโตตุลาการและผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงานคปภ. ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้อนุญาโตตุลาการ และผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงาน คปภ. ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมทั้งการถอดบทเรียนที่เกิดจากการปฏิบัติงานการระงับข้อพิพาทร่วมกันซึ่งอนุญาโตตุลาการและผู้ไกล่เกลี่ยแต่ละท่านมีประเด็นข้อพิพาทที่หลากหลาย และมีเทคนิคหรือประสบการณ์ในการดำเนินงานที่แตกต่างกันอันจะทำให้การระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลมากยิ่งขึ้น โดยคณะวิทยากรผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายชัยยุทธ มังศรี ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ นายโชติช่วงทัพวงศ์อนุญาโตตุลาการ ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษาอาวุโสศาลอุทธรณ์ภาค 7 และดร.พิณลัพธ พรนาคสมบูรณ์ ประธานคณะกรรมการผู้ไกล่เกลี่ยสำนักงาน คปภ. โดยมีข้อหารือเกี่ยวกับประเด็นค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถอาทิอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถขั้นต่ำระยะทางที่ใช้ในการเดินทางประเภทของรถและระยะเวลาที่ใช้ในการซ่อมรถยนต์
ประเด็นค่าเสื่อมราคารถยนต์อาทิอายุการใช้งานของรถสภาพความเสียหายลักษณะการใช้ประโยชน์ ราคาตลาด และอัตราค่าเสื่อมราคาตามมาตรฐานทางบัญชี
ประเด็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างอื่น อันมิใช่ตัวเงินซึ่งเป็นความเสียหายที่ไม่สามารถคำนวณเป็นมูลค่าเงินโดยเป็นค่าสินไหมทดแทนระหว่างการรักษาพยาบาลอาทิอาการของผู้บาดเจ็บและระยะเวลาในการเข้ารับรักษาพยาบาล
“ที่ผ่านมาการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงาน คปภ. แม้ว่าจะมีวิธีดำเนินการที่แตกต่างกันแต่ก็เป็นกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกของประชาชนด้านการประกันภัยมีกระบวนการเกี่ยวข้องกัน แต่ทั้งอนุญาโตตุลาการและผู้ไกล่เกลี่ย ยังไม่เคยจัดให้มีการสัมมนาในการปฏิบัติงานร่วมกันมาก่อน รวมทั้งเพื่อให้พนักงานผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและภูมิภาคมีแนวทางปฏิบัติที่ตรงกันและชัดเจนในการดำเนินการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัย ทั้งการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการและกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งข้อเสนอแนะที่ได้จากการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นข้างต้น จะได้นำไปประชุมหารือร่วมกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนากระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกด้านประกันภัยให้สัมฤทธิ์ผลและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ.