คลังลดแลกแจกแถมบ้านประชารัฐ
คลังจัดหนักโครงการบ้านประชารัฐ ชูดอกเบี้ย 0% สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 แสนบาท ผนึกแบงก์รัฐ-เอกชน ลด แลก แจก แถม คนซื้อบ้านหลักแรกผ่อนส่งค่างวดไม่ถึง 3 พันบาทต่อเดือน พร้อมเลิกเพดานรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท แต่ใช้ราคาบ้านต่ำกว่า 7 แสนบาท และมากกว่า 7 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาทแทน
ในที่สุดกระทรวงการคลังและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ก็เคาะโครงการบ้านประชารัฐลงตัวเรียบร้อยแล้วและพร้อมที่นำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 15 มี.ค.นี้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังจากหารือกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและภาคเอกชน เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการบ้านประชารัฐมีเป้าหมายคือ คนที่มีรายได้น้อยจะมีภาระในการผ่อนส่งบ้านแบบเบาๆ สบายๆ เพราะให้มีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น และยังยกเลิกรายได้ต่ำจากกำหนดรายได้เอาไว้ไม่เกิน 15,000 ต่อเดือน ก็เปลี่ยนเป็นราคาบ้านแทนคือไม่เกิน 700,000 บาท และเกิน 700,000 บาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เพราะเรามั่นใจว่าคนรวยไม่ซื้อบ้านราคานี้อย่างแน่นอน และที่สำคัญ โครงการบ้านประชารัฐจะมอบสิทธิ์พิเศษให้แก่ผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกเท่านั้น
“เราจะยกเลิกเพดานที่กำหนดประชาชนที่มีรายได้น้อย 15,000 บาทต่อเดือน แต่จะกำหนดเงื่อนที่ราคาของบ้านเป็นหลักคือ บ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทและต้องเป็นบ้านหลังแรก ส่วนอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่ 0%”
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังได้ขยายออกไปถึงการซ่อมแซมและตกแต่ง รวมถึงการปลูกบ้านบนที่ดินของตนเอง ซึ่งจะครอบคลุมถึงประชาชนในทุกระดับทั้งในเขตเมืองและต่างจังหวัด
ทั้งนี้ โครงการบ้านประชารัฐได้ทำการศึกษาและผลักดันโครงการนี้ ประมาณ 3-4 เดือน โดยมีหลักการคือ 1.บ้านเช่า จะชำระค่าเช่าเป็นรายเดือนหรือรายปีก็ได้ ซึ่งภายใต้การดูแลของกรมธนารักษ์ 2.บ้านเช่าระยะยาว 30 ปี ก็อยู่ภายใต้การดูแลของกรมธนารักษ์ ซึ่งล่าสุดมีที่ราชพัสดุที่สามารถนำร่องโครงการนี้ได้ 4 แปลงเช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย เป็นต้น 3.บ้านซื้อ เป็นการร่วมมือจากกภาคเอกชน 4.การซ่อมแซมและตกแต่ง และ5.การปลูกบ้านในที่ดินของตนเอง รวมวงปล่อยกู้ประมาณ 70,000-80,000 บาท
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโครงการบ้านประชารัฐคือ 1 ในหลายมาตรการของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย และอย่าไปกลัวเรื่องของหนี้ครัวเรือน เพราะการมีบ้านเป็นของตนเองเท่ากับเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่มีทรัพย์สินที่ถาวร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการบ้านประชารัฐที่กระทรวงการคลังจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในสัปดาห์หน้า ได้แบ่งวงเงินกู้สำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยทั้งหมด 2 ส่วนคือ 1.วงเงินกู้ต่ำกว่า 700,000 บาท อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นาน 1 ปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ย 2% ปีที่ 4-6 อัตราดอกเบี้ย 5% หลังจากอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ลบ 0.75 ปัจจุบันอยู่ที่ 6.75% ปี โดยผู้กู้จะมีภาระในการผ่อนส่งเดือนละประมาณ 3,000 บาทและ 2.วงเงินกู้เกินกว่า 700,000 บาท แต่ไม่ถึง 1.5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ปี 1- 3 ปี ปีที่ 4-6 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% และตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยเอ็แอลอาร์ลบ 0.75% โดยผู้กู้จะมีภาระในการผ่อนส่งเดือนละ 7,200 บาท และที่สำคัญ อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรนดังกล่าว จะทำให้ผู้กู้ผ่อนชำระค่างวดไม่ก้าวกระโดดมากเกินไปเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยกำหนดต่ำกว่าท้องตลาด โดยโครงการดังกล่าว จะมีระยะเวลาในการปล่อยกู้ 2 ปี
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังพิจารณาถึงการลด แลก แจก แถม เพื่อให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการนี้ ได้รับผลประโยชน์สูงสุดคือ ธอส. ธนาคารออมสินและภาคเอกชนจะรับภาระเรื่องค่าธรรมเนียมจดจำนองและค่าโอนแทนประชาชน ซึ่งมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว จะลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% จนถึงสิ้นเดือนเม.ย.นี้ ดังนั้น หากเลยเดือนเม.ย.ไปแล้ว ประชาชนที่ซื้อบ้านผ่านโครงการนี้ จะยังได้รับสิทธิดังกล่าวเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามเพื่อให้โครงการบ้านประชารัฐสมบูรณ์ตามแนวความคิดของนายกรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้เสนอให้ภาคเอกชนลดราคาบ้านลงอีกหลังละ 20,000 บาท หรือลดลง 1-1.5% ซึ่งจะส่งผลให้วงเงินกู้บ้านกับธนาคารลดลงด้วย เช่น บ้านราคาหลังละ 1 ล้านบาท เอกชนลดราคาลง 20,000 บาท ก็จะเหลือราคาเพียง 980,000 บาท ซึ่งวิธีการนี้เท่ากับว่า ประชาชนได้รับประโยชน์คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง 1-1.5%.