ซัมซุงกำไร Q2 จ่อลดเกินครึ่ง
โซล (รอยเตอร์) – ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มจะรายงานกำไรในไตรมาส 2 ที่ลดลงเกินครึ่ง เมื่อบริษัทมีกำหนดรายงานรายได้เบื้องต้นในวันที่ 7 ก.ค.นี้ โดยข้อมูลชี้ว่า เกิดจากการจัดส่งชิปให้หัวเว่ยที่ลดลงมาก
โดยมีการคาดการณ์ว่าผลประกอบการของซัมซุงในไตรมาสนี้จะต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 ปีของบริษัท นอกจากรายได้จากชิปจะได้รับผลกระทบจากหัวเว่ย ธุรกิจสมาร์ทโฟนของซัมซุงมีแนวโน้มจะได้กำไรจากยอดขายที่ลดลง 40% ของสมาร์ทโฟนหัวเว่ย อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ หัวเว่ยมีแรงสนับสนุนมากพอจากประเทศบ้านเกิด ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อให้ไม่ร่วงตกอันดับลงไปมากนัก
ทั้งนี้ ยอดขายชิปนำกำไรส่วนใหญ่มาให้ซัมซุง โดยคิดเป็นมากกว่า 2 ใน 3 ของกำไรทั้งหมด ขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มอิ่มตัว และดีมานด์ที่หดตัวฉุดให้ราคาลดต่ำลง จากข้อมูลของ Refiniv SmartEstimate อ้างอิงการประเมินของ 29 นักวิเคราะห์ระบุว่า ซัมซุงจะมีกำไรจากผลประกอบการในไตรมาสเดือนเม.ย.- มิ.ย.อยู่ที่ 6 ล้านล้านวอน (157,849 ล้านบาท)
ทั้งนี้ นอกจากซัมซุงจะได้รับผลกระทบจากหัวเว่ยที่ถูกสหรัฐฯ แบนไม่ให้บริษัทสหรัฐฯ ขายสินค้าให้ ยังอาจประสบปัญหาใหม่ที่ญี่ปุ่นประกาศคุมเข้มวัตถุดิบในการผลิตชิปและสมาร์ทโฟนไปให้เกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นมาตรการตอบโต้เกาหลีใต้ที่เรียกร้องเงินชดเชยให้แรงงานที่ถูกญี่ปุ่นบังคับให้ทำงานในช่วงสงครามโลก ซึ่งญี่ปุ่นอ้างว่าได้แก้ไขปัญหาไปแล้วเมื่อหลายทศวรรษก่อน
ในระยะยาว ข่าวดีของซัมซุงอาจอยู่ในปัญหาของหัวเว่ย หากสหรัฐฯ ยังแบนหัวเว่ย ซัมซุงจะสามารถขายสมาร์ทโฟนได้มากขึ้นถึง 37 ล้านเครื่องต่อปี จากความเห็นของ ซงมยองซุป ที่ปรึกษาอาวุโสของ H1 Investment & Securities นอกจากนี้มีแนวโน้มที่บริษัทจะติดตั้งชิปของตัวเองทั้งหมดในสมาร์ทโฟนเหล่านั้นในเดือนเม.ย. ซัมซุงเคยระบุว่า คาดการณ์ว่ายอดขายสมาร์ทโฟนและชิปจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
“รายได้ของผู้ผลิตเมมโมรีชิปจะฟื้นตัว แต่จะไม่เร็วและจะไม่ฟื้นแบบก้าวกระโดด” ซงให้ความเห็น.