คลังจี้ ยสท.หาคนผู้นำใหม่-เยียวยาเกษตรยาสูบ
รมช.คลัง จี้ การยาสูบฯ เยียวยาทุกระยะให้ชาวไร่ยาสูบ ภายหลังถูกกระทบจากแผนขึ้นภาษีสรรพสามิตฯ 20-40% หนุนจับมือสถาบันการวิจัยและพัฒนา หาจุดเด่นจากสารเคมีในใบยาสูบ สร้างมูลค่าเพิ่มผ่านที่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ สั่งเร่งหาผู้ว่าการฯคนใหม่ เน้นเก่งการตลาดรับมือการแข่งขันบนเวทีโลก
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กล่าวภายหลังหารือร่วมกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในพื้นที่ 7 จ.ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 100 คน ที่ได้เข้าพบและยื่นหนังสือร้องเรียนถึงปัญหาที่การขึ้นภาษีสรรพสามิตยาสูบ เป็น 40% ส่งผลให้มีการตัดโควตารับซื้อใบยาสูบลง 50% เป็นเวลา 2 ปี หลังจากที่ พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต 60 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.62 ว่า ขณะนี้ ตนได้มอบนโยบายให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่แล้ว โดยหาแนวทางเพิ่มรายได้ รวมถึงเพิ่มศักยภาพการ ยสท.ให้สามารถแข่งขันด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาที่จะนำใบยาสูบไปหาคุณสมบัติพิเศษที่เป็นประโยชน์ในทางการแพทย์ เช่น ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช นิโคตินเหลว และ ปุ๋ย เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับใบยาสูบไทยในอนาคต
“ใบยาสูบถือเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทย ที่มีคุณภาพและมีการเพาะปลูกมาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ดังนั้น หากมีแผนการพัฒนาที่ชัดเจนในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับใบยาสูบ โดยใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ด้านทางวิทยาศาสตร์มาค้นคว้า หาคุณสมบัติพิเศษในสารเคมีที่อยู่ในตัวใบยาสูบ มาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เชื่อว่าจะส่งผลต่อความคุ้มค่าในการเพาะปลูกยาสูบของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหาแนวทางความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ ที่มีการวิจัยและพัฒนา สกัดสารเคมีจากใบยาสูบเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เพื่อนำไปสู่การทำตลาดให้กับใบยาสูบได้อีกช่องทางหนึ่ง เพื่อการปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง ตามกฎการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO)” รมช.คลัง ระบุ
สำหรับข้อเสนอของเกษตรกรเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการขึ้นภาษีให้เกิดความเหมาะสม หรือเป็นแบบขั้นบันใด โดยขอให้ปรับปีละ 5% ทุกๆ 2 ปี นั้น ตนเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวคงต้องนำไปหารือกับกรมสรรพสามิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะไปช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชอื่นๆ แทนอย่างเป็นระบบ ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับเกษตรกร ถึงสาเหตุที่มีการปรับภาษีเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นไปตามกติกาการค้าระหว่างประเทศ ที่ไทยได้ทำข้อตกลงไว้ รวมถึงเป็นการรณรงค์ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่เพื่อการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนด้านสุขอนามัยให้เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ ยสท.เร่งสรรหาตำแหน่ง ผู้ว่าการฯคนใหม่ ที่มีคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาการตลาด และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศ เพื่อยกระดับไปสู่องค์กรที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการผลิตบุหรี่ม้วน และขายในประเทศเท่านั้น รวมถึงการร่วมมือกับผู้จำหน่ายบุหรี่ แบรนด์ต่างๆจากต่างประเทศ เพื่อผลิตป้อนความต้องการของต่างประเทศ.