‘เสนาฯ’ชี้อสังหาฯเด้งรับมาตรการะตุ้นศก.
“SENA” โชว์ตุนแบ็กล็อก12,000 ล้านบาท บันทึกเป็นรายได้ปีนี้กว่า 4,000 ล้านบาท เดินหน้าครึ่งปีหลังผุดเพิ่ม 9 โครงการใหม่ มูลค่า 12,000 ล้านบาท มองอสังหาฯครึ่งปีหลังฟื้นตัว เด้งรับอานิสงส์รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ บวกธปท.ผ่อนปรนเกณฑ์LTVให้ผู้กู้ร่วม
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรกของ2562 มีหลายปัจจัยทั้งจากสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วงไตรมาส 2 ชะลอตัว โดยรายได้รวมงวด 6 เดือนแรกของปี62 สามารถทำได้ 2,342.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 279.1 ล้านบาท
แต่ในด้านธุรกิจที่เกี่ยวโซลาร์ของบริษัท เติบโตหลายเท่าตัว โดยมีรายได้อยู่ที่ 58.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.6 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง1,793.5% ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาตกลงซื้อขายอุปกรณ์ พร้อมติดตั้ง สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป)กับ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลกระทบจากมาตรการ LTV รวมถึงสถานการณ์ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างยังมีไม่เพียงพอ เนื่องจากมีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนมาตรการ ทำให้บริษัทปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ โดยเลื่อนการเปิดโครงการใหม่จากไตรมาส 2 ไปเปิดในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2562 โดยครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ รวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนมิ.ย.62 บริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) คิดเป็นมูลค่า 12,583 ล้านบาท จะมีการบันทึกเป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปี62ประมาณ 4,582 ล้านบาท และทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2564
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินว่ามีทิศทางปรับตัวดีขึ้น เป็นผลจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งมาตรการด้านการท่องเที่ยว การประกันราคาสินค้าเกษตร และการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่ส่งผลให้เกิดกำลังซื้อภายในประเทศอีกครั้ง ตลอดจนการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และเกิดการจ้างงานในระบบมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางธปท.ยังได้ผ่อนปรนมาตรการLTV เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้กู้ร่วม ที่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยให้ได้รับสินเชื่อตามความเหมาะสมมากขึ้น ส่วนนี้จะเข้ามาช่วยผลกระทบจากมาตรการLTV ได้ระดับหนึ่ง.