จีนขึ้นภาษี ล็อตใหญ่ตามมาเดือนธ.ค.
ปักกิ่ง – จีนกำลังขึ้นภาษีตอบโต้อย่างช้าๆ ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ยกระดับขึ้น
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. รัฐบาลจีนเริ่มขึ้นภาษีเป็นอัตรา 5% – 10% กับสินค้าอเมริกันที่ส่งออกไปจีน รวมทั้งถั่วเหลืองและน้ำมันดิบ
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนสินค้าที่ถูกจัดเก็บภาษีเพิ่มที่เริ่มต้นในวันที่ 1 ก.ย. คิดเป็นเพียงประมาณ 1 ใน 3 ของสินค้ากว่า 5,000 รายการในคำประกาศครั้งล่าสุด โดยภาษีก้อนใหญ่จะถูกจัดเก็บในวันที่ 15 ธ.ค.และแผนการจัดเก็บภาษีใหม่กับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จะยังไม่มีผลจนกว่าจะถึงวันนั้น
จากรายงานที่จัดทำโดย Panjiva บริษัทให้บริการด้านข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ S&P
Global Market Intelligence ชี้ว่าสินค้าในกลุ่มที่ถูกจัดเก็บภาษีวันที่ 1 ก.ย. อาจถูกเลือกเพราะรายการเหล่านั้นมีการจัดส่งที่ฟื้นตัวมากกว่าที่จะลดลง บทวิเคราะห์ในวันที่ 27 ส.ค.ชี้ว่า การส่งออกของสหรัฐฯในกลุ่มที่ถูกเก็บภาษีวันที่ 1 ก.ย.มียอดลดลง 15.2%
ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับปีก่อน และเมื่อเทียบกับสินค้าที่มียอดขายลดลง 20.4% สำหรับกลุ่มที่ถูกเก็บภาษีวันที่ 15 ธ.ค.
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของคำประกาศของกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 23 ส.ค.เกี่ยวกับภาษีตอบโต้จากจีนมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จัดเก็บกับสินค้าสหรัฐฯ ขณะที่ภาษีเพิ่มเติมของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.
ที่สำคัญ คือสินค้าจีนมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ส่งออกไปสหรัฐฯมีกำหนดจะถูกจัดเก็บภาษีในรอบเดือนธ.ค.
รัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นขวัญและกำลังใจของประชาชน ท่ามกลางความกดดันที่เพิ่มขึ้นจากภาษีที่ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังพยายามเปลี่ยนจากประเทศที่พึ่งพาการผลิตไปสู่การส่งออกเพื่อการเติบโต ไปจนถึงการบริโภค
“ ภาษีก้อนใหญ่ไม่สามารถฉุดรั้งการพัฒนาของจีน” หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุเป็นพาดหัวบทความของวันที่ 1 ก.ย.
รายงานของนักวิเคราะห์ยังชี้ว่า บริษัทของจีนพยายามหาทางรับมือกับภาษีและอยู่รอดให้ได้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายจีนเรียกร้องให้ยกเลิกภาษีเพิ่มเติมเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้า “ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน เราคิดว่าปัญหาที่ควรคุยกันคือการยกเลิกภาษีมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้าส่งออกของจีน เพื่อป้องกันไม่ให้สงครามการค้ายกระดับขึ้น” เกาเฝิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา “ ในเวลานี้ ฝ่ายจีนมีการเจรจาประเด็นนี้อย่างจริงจังกับฝ่ายสหรัฐฯ”
ภาษีตอบโต้กันจากสงครามการค้าในปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบกับบริษัทอเมริกันเช่นกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาธุรกิจสหรัฐฯ – จีนระบุในผลสำรวจสมาชิกประจำปีว่า เกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานยอดขายลดลง โดยส่วนใหญ่เกิดจากผลกระทบของภาษี ผลสำรวจยังพบว่า สมาชิกสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งต่างประเทศ
โดยผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ความกังวลของจีนเป็นเหตุผลที่ทำให้ยอดขายหายไปถึง 7 เท่าระหว่างปี 2561 – 2562 หรือประมาณ 37%
ทั้งนี้ การส่งออกของสหรัฐฯไปจีนสร้างงานให้ชาวอเมริกันได้มากกว่า 1.1 ล้านอัตรา